สรุปผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ครั้งที่ 13 ประจำฤดูกาล 2568/69

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จัดประชุม ครั้งที่ 13 ประจำฤดูกาล 2568/69 โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน

พิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน

1. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการช้าง เอฟเอ คัพ วันที่ 29 ตุลาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสรลพบุรี ซิตี้ พบ สโมสรราชบุรี เอฟซี (สโมสรลพบุรี ซิตี้ ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ 
ในนาทีที่ 13 ผู้เล่นหมายเลข 9 Mr. IKHSAN FANDI AHMAD สโมสรราชบุรี เอฟซี ยิงลูกบอลกระทบคานประตู และตกลงสู่พื้นบริเวณเส้นประตู แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ได้ให้สัญญาณกับผู้ตัดสินว่าลูกบอลข้ามเส้นประตูไปแล้ว ผู้ตัดสินจึงให้เป็นประตู ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า ลูกบอลยังไม่ข้ามเส้นประตูเต็มใบ จึงไม่ควรให้เป็นประตู

- ผลพิจารณา
ลงโทษนายอาณา รัตนบัวชุม ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 2 เดือน เนื่องจากจังหวะที่ผู้เล่นหมายเลข 9 Mr. IKHSAN FANDI AHMAD สโมสรราชบุรี เอฟซี ยิงลูกบอลชนคานและตกลงสู่พื้น ปรากฎว่าลูกบอลยังไม่ข้ามเส้นประตูเต็มใบ ดังนั้น การที่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ให้สัญญาณว่าลูกบอลเข้าประตู ถือว่าเป็นการตัดสินที่ไม่ถูกต้อง 

2. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ซีล ไฟว์ ลีกสอง วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรหนองบัว พิชญ เอฟซี พบ สโมสรสงขลา เอฟซี (สโมสรสงขลา เอฟซี ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ 
ในนาทีที่ 56 ผู้เล่นหมายเลข 7 นายนรเสฏฐ์ หลักทอง สโมสรหนองบัว พิชญ เอฟซี ได้หงายปุ่มสตั๊ดเข้าสกัดไปที่บริเวณหน้าแข้งและข้อเท้าของผู้เล่นหมายเลข 13 นายเอกสิทธิ์ ฉาวบุตร สโมสรสงขลา เอฟซี ผู้ตัดสินได้เป่าฟาลว์และคาดโทษใบเหลือง ต่อมา VAR ได้เรียกผู้ตัดสินออกมาทำการตรวจสอบกรณีใบแดง เมื่อผู้ตัดสินตรวจสอบแล้ว ได้ยืนยันคำตัดสินเดิม ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า เป็นการเข้าสกัดที่อันตรายและขาดความระมัดระวังในการเล่น  เหตุการณ์ดังกล่าวควรเป็นใบแดง

- ผลพิจารณา
1) ลงโทษนายกนกศักดิ์ เขียวแดง ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 2 สัปดาห์ เนื่องจากในจังหวะแย่งชิงลูกบอลผู้เล่นหมายเลข 7 นายนรเสฏฐ์ หลักทอง สโมสรหนองบัว พิชญ เอฟซี กระโดดเข้าเล่นด้วยการเหยียดขา เปิดฝ่าเท้าหงายปุ่มพุ่งเข้าไปสกัดที่ลูกบอล แม้ว่าลูกบอลจะกระเด็นลอดขาผู้เล่นหมายเลข 13 นายเอกสิทธิ์ ฉาวบุตร สโมสรสงขลา เอฟซี ออกไป แต่ในจังหวะต่อเนื่องนั้นฝ่าเท้าและปุ่มสตั๊ดไปกระแทกที่ข้อเท้าของผู้เล่นหมายเลข 13 นายเอกสิทธิ์ ฉาวบุตร สโมสรสงขลา เอฟซี ถือเป็นการเล่นที่รุนแรงใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ตามกติกาข้อ 12 เรื่อง “การกระโดดเข้าใส่หรือเข้าสกัดฝ่ายตรงข้าม” (Jump at or Tackle an Opponent) ซึ่งลักษณะการกระทำเป็นการพุ่งเข้าใส่ในทิศทางสวนทางกับฝ่ายตรงข้าม และมีการใช้กำลังแรงเกินกว่าเหตุ (Using Excessive Force) จังหวะดังกล่าวควรเป็นใบแดง

2) ลงโทษผู้เล่นหมายเลข 7 นายนรเสฏฐ์ หลักทอง สโมสรหนองบัว พิชญ เอฟซี มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.19 ประกอบกับ ข้อ 1.1.2 (3) ใบแดง (Serious Foul Play) ถูกพักการแข่งขัน 1 นัด และปรับเงิน 10,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 2 จึงลงโทษปรับสองในสาม ปรับเงิน 6,666 บาท

3. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรสิงห์ เชียงราย ซิตี้ พบ สโมสรแม่โจ้ ยูไนเต็ด (สโมสรสิงห์ เชียงราย ซิตี้ ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ 
ในนาทีที่ 88 ผู้เล่นหมายเลข 11 นายศราวุฒิ ใหม่วงค์ สโมสรสิงห์ เชียงราย ซิตี้ ถูกผู้เล่นหมายเลข 7 นายวิชิตนันท์ กรวยทอง สโมสรแม่โจ้ ยูไนเต็ด ดึงและขัดขวางการทำประตูในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินเป่าให้สโมสรแม่โจ้ ยูไนเต็ด ได้ฟาล์ว ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า จังหวะดังกล่าว ทางสโมสรสิงห์ เชียงราย ซิตี้ ควรได้ฟาล์วและเป็นจุดโทษ 

- ผลพิจารณา
ลงโทษนายโอภาส ออมสมสวย ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 6 สัปดาห์ เนื่องจากแม้มุมกล้องจะไม่สามารถมองเห็นมือซ้ายของผู้เล่นหมายเลข 7 นายวิชิตนันท์ กรวยทอง สโมสรแม่โจ้ ยูไนเต็ด (ฝ่ายรับ)ได้อย่างชัดเจน แต่สามารถสังเกตได้ว่า มีการใช้มือทั้งสองข้างโอบและดึงผู้เล่นหมายเลข 11 นายศราวุฒิ ใหม่วงค์ สโมสรสิงห์ เชียงราย ซิตี้  (ฝ่ายรุก) ขณะพยายามหมุนตัวครอบครองลูกบอลที่อยู่บนพื้น การดึงดังกล่าวส่งผลให้ผู้เล่นฝ่ายรุกเสียหลักจนขาลอยขึ้นและล้มลง ซึ่งการล้มเป็นผลโดยตรงจากการถูกดึง ดังนั้น การที่ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาวล์ให้แก่สโมสรสิงห์ เชียงราย ซิตี้ และไม่ให้จุดโทษในจังหวะนี้ ถือว่าเป็นการตัดสินที่ไม่ถูกต้อง

4. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรฟูเทร่า ยูไนเต็ด พบ สโมสรสิงห์บุรี วอร์ริเออร์ (สโมสรสิงห์บุรี วอร์ริเออร์ ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ 
ในนาทีที่ 76 ผู้เล่นหมายเลข 8 นายมานพ กิตติพิรุฬห์ สโมสรสิงห์บุรี วอริเออร์ ได้เตะฟรีคิกเข้าไปในเขตโทษ โดยผู้รักษาประตูหมายเลข 99 นายปรัชญา ปัญญา สโมสรฟูเทร่า ยูไนเต็ด ได้ปัดบอลออกมาไปเข้าทางผู้เล่นหมายเลข 96 Mr. BASAM RADWAN MAHMOUD MOHAMED AFIFY สโมสรสิงห์บุรี วอริเออร์ และวิ่งเข้ามาทำยิงประตูเข้าไป แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ยกธงว่าผู้เล่นคนดังกล่าวอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ทำให้สโมสรสิงห์บุรี วอริเออร์ ไม่ได้ประตู 

- ผลพิจารณา
ยกคำร้อง เนื่องจากคลิปภาพเหตุการณ์ไม่สามารถระบุได้ชัดว่า ลูกบอลได้มีการไปสัมผัสกับผู้เล่นหมายเลข 97 นายนิติพลพรหมบุตร สโมสรสิงห์บุรี วอริเออร์ ก่อนหรือไม่ ซึ่งหากมีการไปสัมผัสอาจจะเป็นจังหวะล้ำหน้าได้ แต่หากไม่ได้มีการสัมผัส ผู้เล่นหมายเลข 96 Mr. BASAM RADWAN MAHMOUD MOHAMED AFIFY สโมสรสิงห์บุรี วอริเออร์ จะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ทั้งนี้ จากคลิปภาพที่ตรวจสอบแล้ว ไม่ปรากฏความชัดเจนเพียงพอในการยืนยันจุดสัมผัสของลูกบอล หากมีการพิจารณาตัดสินชี้ขาดไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง โดยปราศจากหลักฐานที่ชัดแจ้ง อาจส่งผลให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคำวินิจฉัย

5. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ พบ สโมสรสระบุรี ยูไนเต็ด (สโมสรมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ 
ในนาทีที่ 85 ผู้เล่นหมายเลข 9 Mr. ERICK LUIS PALMA DOS SANTOS สโมสรมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ถูกผู้เล่นหมายเลข 2 นายณัฐพงศ์ เปพาทย์ สโมสรสระบุรี ยูไนเต็ด เข้าสกัดด้วยการเปิดปุ่มสตั๊ดใส่ไปที่บริเวณต้นขาเหนือหัวเข่า ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์และคาดโทษใบเหลืองแก่ผู้เล่นคนดังกล่าว ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า ผู้เล่นไม่ได้เจตนาเข้าสกัดที่ลูกบอล เนื่องจากลูกบอลอยู่ที่พื้น มีเจตนาทำร้ายคู่ต่อสู้จนได้รับบาดเจ็บ จังหวะดังกล่าวควรเป็นใบแดง 

- ผลพิจารณา
1) ลงโทษนายบุญส่ง ประชุมรักษ์ ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 2 สัปดาห์ เนื่องจากผู้เล่นหมายเลข 2 นายณัฐพงศ์ เปพาทย์ สโมสรสระบุรี ยูไนเต็ด ใช้เท้าถีบเข้าใส่คู่ต่อสู้บริเวณหว่างขาโดยตรง ซึ่งเป็นจุดสัมผัสที่มีความอันตราย และเป็นการกระทำที่ไม่มีเจตนาเล่นที่ลูกบอล ถือเป็นการประพฤติผิดกติกาอย่างร้ายแรง (Violent Conduct) ดังนั้น จังหวะดังกล่าวควรต้องลงโทษด้วยการให้ใบแดง การที่ผู้ตัดสินให้ใบเหลือง ถือว่าตัดสินไม่ถูกต้อง  

2) ลงโทษผู้เล่นหมายเลข 2 นายณัฐพงศ์ เปพาทย์ สโมสรสระบุรี ยูไนเต็ด มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.19 ประกอบกับ ข้อ 1.1.2 (1) ใบแดง (Violent Conduct) ถูกพักการแข่งขัน 2 นัด และปรับเงิน 20,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 5,000 บาท

6. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรลพบุรี ซิตี้ พบ สโมสรพราม แบงค็อก (สโมสรลพบุรี ซิตี้ ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ 
ในนาทีที่ 61 ผู้เล่นสโมสรลพบุรี ซิตี้ ทุ่มบอลเข้ามาในเขตโทษของสโมสรพราม แบงค็อก ลูกบอลได้ไปโดนแขนซ้ายของผู้เล่นหมายเลข 42 Mr. VICTOR KAMHUKA สโมสรพราม แบงค็อก แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาลว์แฮนด์บอล ทำให้สโมสรลพบุรี ซิตี้ ไม่ได้จุดโทษ

- ผลพิจารณา
นายนัสรีย์ ตามาต ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง เนื่องจากจังหวะดังกล่าวมีผู้เล่นหมายเลข 3 Mr. ERIC KUMI สโมสรลพบุรี ซิตี้ (ฝ่ายรุก) ยืนอยู่ด้านหน้า และผู้เล่นหมายเลข 42 Mr. VICTOR KAMHUKA สโมสรพราม แบงค็อก (ฝ่ายรับ) ยืนอยู่ด้านหลัง ผู้เล่นฝ่ายรุกพยายามใช้ศีรษะโหม่งลูกบอล ส่งผลให้ลูกบอลเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็วและพุ่งไปถูกแขนซ้ายของผู้เล่นฝ่ายรับ ซึ่งในขณะนั้นแขนของผู้เล่นฝ่ายรับอยู่ในตำแหน่งชี้ลงพื้น ห่างจากลำตัวเพียงเล็กน้อย ไม่สามารถหลบหรือขยับมือได้ทัน เนื่องจากระยะระหว่างการโหม่งกับจุดที่ลูกบอลสัมผัสแขนอยู่ใกล้กันมาก และไม่ได้มีลักษณะของการทำให้ร่างกายใหญ่ขึ้น (Unnaturally Bigger) ดังนั้น การที่ผู้ตัดสินไม่ได้เป่าฟาล์วแฮนด์บอล ถือว่าเป็นการตัดสินที่ถูกต้อง