28 May 2025

1 วันที่ผ่านมา

สรุปผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ครั้งที่ 40 ประจำฤดูกาล 2567/68

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จัดประชุม ครั้งที่ 40 ประจำฤดูกาล 2567/68 โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน

พิจารณาเหตุการณ์ไม่ปกติของการแข่งขันกีฬาฟุตบอล

1. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการ เมืองไทย ลีก (ไทยลีก 2) วันที่ 24 พฤษภาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร แพร่ ยูไนเต็ด พบ สโมสร พลังกาญจน์ เอฟซี 

- เหตุการณ์
1) บริเวณป้ายผู้สนับสนุนหน้าอัฒจันทร์ที่นั่งของกองเชียร์สโมสรพลังกาญจน์ เอฟซี ได้มีกองเชียร์สโมสร พลังกาญจน์ เอฟซี จำนวนประมาณ 20 คน กระโดดข้ามรั้วกั้นสนามเข้ามาในพื้นที่ว่างด้านหน้าระหว่างตัวอัฒจันทร์ที่นั่งกับป้ายผู้สนับสนุน เข้ามาได้ประมาณ 10 เมตร โดยมีกองเชียร์สโมสร พลังกาญจน์ เอฟซี รายหนึ่งวิ่งโบกธงเชียร์ของสโมสรไปมาในลักษณะดีใจ ผ่านด้านหน้าอัฒจันทร์ที่นั่งของกองเชียร์สโมสร แพร่ ยูไนเต็ด โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยวิ่งตามให้กลับเข้าพื้นที่อัฒจันทร์ของทีมเยือน ทำให้เกิดความไม่พอใจกับกองเชียร์สโมสร แพร่ ยูไนเต็ด ที่เห็นเหตุการณ์ โดยเฉพาะกองเชียร์ที่อยู่ใกล้พื้นที่ฟรีโซนที่กั้นระหว่างกองเชียร์ทั้งสอง มีการตะโกนยั่วยุท้าทายกันไปมา และเริ่มขว้างปาแก้วน้ำใส่กัน  

2) บริเวณป้ายผู้สนับสนุนหน้าอัฒจันทร์ที่นั่งของกองเชียร์สโมสร แพร่ ยูไนเต็ด เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับเหตุการณ์ที่ 1 ภายหลังจากที่กองเชียร์สโมสร พลังกาญจน์ เอฟซี รายหนึ่งวิ่งโบกธงเชียร์ของสโมสรไปมาในลักษณะดีใจ ได้มีการปะทะคารมยั่วยุกันไปมาของกองเชียร์ทั้งสองสโมสร และได้มีการขว้างปาแก้วน้ำใส่กันไปมา จากนั้นเมื่อสถานการณ์เกิดความวุ่นวายมากขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงระดมกำลังเข้าควบคุมและให้กองเชียร์สโมสร แพร่ ยูไนเต็ด ถอยระยะให้ห่างจากพื้นที่ฟรีโซนที่กั้นกองเชียร์ทั้งสองฝ่าย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทีมและนักกีฬาทั้งสองสโมสรต่างช่วยกันห้ามปราบกองเชียร์ของตนเอง เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยควบคุมสถานการณ์ได้แล้วเหตุการณ์จึงได้สงบลง 

- ผลพิจารณาโทษ
1) ลงโทษกองเชียร์สโมสร พลังกาญจน์ เอฟซี ผ่านรั้วกั้นรอบสนามเข้าไปในบริเวณพื้นที่รอบสนามแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.2 ปรับเงิน 20,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการ ไทยลีก 2 จึงลงโทษปรับสองในสาม ปรับเงิน 13,333 บาท 

2) ลงโทษกองเชียร์สโมสร พลังกาญจน์ เอฟซี ขว้างปาวัสดุหรือสิ่งของใส่กองเชียร์ทีมคู่แข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.4 ปรับเงิน 30,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการ ไทยลีก 2 จึงลงโทษปรับสองในสาม ปรับเงิน 20,000 บาท

 3) ลงโทษกองเชียร์สโมสร แพร่ ยูไนเต็ด ขว้างปาวัสดุหรือสิ่งของใส่กองเชียร์ทีมคู่แข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.4 ปรับเงิน 30,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการ ไทยลีก 2 จึงลงโทษปรับสองในสาม ปรับเงิน 20,000 บาท 

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 4.2 บุคคลหรือกลุ่มบุคคลใด ผ่านรั้วกั้นรอบสนามเข้าไปในบริเวณพื้นที่รอบสนามแข่งขัน หรือเข้าไปในสนามแข่งขัน ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังจากการแข่งขัน โดยไม่ได้รับอนุญาต จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 50,000 บาท

การเข้าไปในสนามแข่งขันสามารถกระทำได้ หากทีมเยือนและเจ้าหน้าที่การแข่งขันได้เดินทางออกไปจากสถานที่จัดการแข่งขันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และองค์กรสมาชิกที่เป็นทีมเหย้าอนุญาต

ข้อ 4.4 กองเชียร์ทีมใด หรือกลุ่มบุคคลใด หรือบุคคลใด ขว้างปาหรือกระทำด้วยประการใด ให้วัสดุหรือสิ่งของอื่นใด เข้าไปในสนามก็ดี หรือกระทำต่อนักกีฬาฟุตบอล หรือเจ้าหน้าที่ทีม หรือกองเชียร์ทีมคู่แข่งขัน หรือเจ้าหน้าที่การแข่งขันก็ดี องค์กรสมาชิกต้นสังกัดของกองเชียร์ที่เป็นผู้กระทำ และ/หรือ องค์กรสมาชิกที่เป็นทีมเหย้าที่ปล่อยให้มีการกระทำดังกล่าวต้องรับโทษ จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 60,000 บาท

2. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการไทยลีก 3 วันที่ 24 พฤษภาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร ฟุตบอลราชนาวี พบ สโมสร ฟุตบอลกองเรือรบ

- เหตุการณ์
ช่วงพักครึ่งเวลาการแข่งขันในครึ่งเวลาแรก ในขณะที่ทีมงานผู้ตัดสินกำลังเดินออกจากสนามเข้าห้องพักผ่านอุโมงค์ทางเข้าได้มีกองเชียร์สโมสร ฟุตบอลราชนาวี ผู้ชาย 1 คน ใส่เสื้อสีเหลืองของสโมสร ฟุตบอลราชนาวีและผู้หญิงใส่เสื้อสีกรมท่าด้านหลังสกรีน RAJNAVY FC ซึ่งนั่งดูเกมอยู่ด้านหน้าห้องทำงานผู้ควบคุมการแข่งขันและผู้ประเมินผู้ตัดสิน ได้เดินไปรอด่าทอทีมงานผู้ตัดสินขณะที่กำลังเดินผ่านอุโมงค์ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ระหว่างนั้นได้มีเจ้าหน้าที่สนามสโมสร ฟุตบอลราชนาวีได้เดินไปกันตัวกองเชียร์สโมสร ฟุตบอลราชนาวีที่ใส่เสื้อสีเหลืองให้กลับไปยังที่นั่ง และผู้หญิงใส่เสื้อสีกรมท่าก็เดินกลับออกมาจากบริเวณดังกล่าว

- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษกองเชียร์สโมสรฟุตบอลราชนาวี ด่าบุคคลใดด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.1 ปรับเงิน 30,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 7,500 บาท 

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 4.1 ด่าบุคคลใด ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย หรือเยาะเย้ย ดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือแสดงกิริยาก้าวร้าว ข่มขู่ เช่น การเหยียดผิวหรือเชื้อชาติบุคคลใดด้วยพฤติกรรมที่ชัดแจ้ง ทั้งภาษากาย จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 30,000 บาท 

หากการกระทำผิดตามวรรคแรก กระทำโดยบุคคลหลายคนโดยพร้อมเพรียงกัน จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 40,000 บาท  

หากเป็นการกระทำโดยผ่านเครื่องโทรโข่ง หรือเครื่องขยายเสียงประกอบการเชียร์ หรือถ่ายทอดสดผ่านทางสื่อออนไลน์ ปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 50,000 บาท และห้ามนำอุปกรณ์ดังกล่าวเข้าสถานที่จัดการแข่งขัน 1 ถึง 4 นัด

3. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการ ช้าง เอฟเอ คัพ วันที่ 24 พฤษภาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 

- เหตุการณ์
1) เหตุการณ์ที่ 1 ช่วงพักครึ่งการแข่งขัน ขณะนักกีฬาเดินกลับเข้าห้องพัก ผู้รักษาประตูหมายเลข 13 Mr.Neil Etheridge สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่พอใจที่ทีมตนเองเสียประตูจากจุดโทษ ได้ใช้มือทุบป้ายผู้สนับสนุนที่ติดอยู่ตรงปากอุโมงค์ทางเข้าห้องพักเกิดเป็นรอยแตกร้าวยาว

2) เหตุการณ์ที่ 2 นาทีที่ 26 กองเชียร์สโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด หลังประตูด้านทิศเหนือ ได้จุดประทัดลูกบอลขนาดเล็ก แล้วปาลงมาจากอัฒจันทร์ตกลงบนลู่วิ่งหลังประตู ทำให้เกิดเสียงดังได้ยินทั่วทั้งสนามพร้อมกับมีกลุ่มควันลอยขึ้นมา 

3) เหตุการณ์ที่ 3 นาทีที่ 72 และต่อเนื่องนาทีที่ 74 หลังจากสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ประตู กองเชียร์สโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด หลังประตู ได้จุดประทัดลูกบอลขนาดเล็ก ลักษณะคล้ายเหตุการณ์ในครึ่งแรก เกิดเสียงดังได้ยินทั่วทั้งสนามและมีกลุ่มควันลอยขึ้น 

4) เหตุการณ์ที่ 4 หลังจบการแข่งขัน เวลาประมาณ 21.00 น. ได้รับแจ้งจากทีมงานรักษาความปลอดภัยว่า มีกลุ่มชายชุดดำ บางส่วนปิดบังใบหน้า มีหมวกคลุมผม ได้ผ่านแนวรั้วกั้นยาว ที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยกั้นไว้ระหว่างกองเชียร์ทั้งสองทีม โดยกลุ่มชายชุดดำกลุ่มนี้ เดินมาจากแนวรั้วกั้นฝั่งประตูทางออก เข้ามาในพื้นที่บริเวณลานจอดรถฝั่ง S ลักษณะเพื่อเข้ามาหากลุ่มกองเชียร์สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ถือธงเชียร์ของกองเชียร์สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต่อมากลุ่มชายชุดดำรายหนึ่งพยายามเข้าไปดึงด้ามธงเชียร์ของกองเชียร์สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และเกิดการปะทะกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจผลักดันกองเชียร์ทั้งสองฝ่ายให้ถอยห่างจากกัน แต่ชายชุดดำดังกล่าวไม่ปฏิบัติตามคำขอของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และก่อความวุ่นวาย จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องเข้าจับกุม จนเหตุได้สงบลง

- ผลพิจารณาโทษ
1) เหตุการณ์ที่ 1 ลงโทษผู้รักษาประตูหมายเลข 13 Mr. NEIL LEONARD ETHERIDGE สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำลายทรัพย์สินของสถานที่จัดการแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.5 ปรับเงิน 20,000 บาท และชดใช้ค่าเสียหายตามราคาประเมินให้ผู้เสียหาย (หากมี)

2) เหตุการณ์ที่ 2 ลงโทษกองเชียร์สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด กระทำการใด ๆ ที่ไม่เหมาะสมในสถานที่จัดการแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.3 ปรับเงิน 60,000 บาท

3) เหตุการณ์ที่ 3 ลงโทษกองเชียร์สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด กระทำการใด ๆ ที่ไม่เหมาะสมในสถานที่จัดการแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.3 ปรับเงิน 60,000 บาท 

ดังนั้น เหตุการณ์ที่ 2 และ 3 ปรับเงินกองเชียร์สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นเงิน 120,000 บาท เนื่องจากกองเชียร์สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด กระทำความผิดตามระเบียบนี้ซ้ำในข้อเดียวกันภายในฤดูกาลแข่งขันเดียวกัน ให้พิจารณาเพิ่มโทษอีกไม่เกินกึ่งหนึ่งของกำหนดโทษที่จะลง จึงเพิ่มโทษสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด ปรับเงินเพิ่มอีก 60,000 บาท รวมโทษปรับเงินทั้งสิ้น 180,000 บาท 

4)เหตุการณ์ที่ 4 คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ได้พิจารณาจากคลิปวิดีโอ ภาพถ่าย และประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ แล้วเห็นว่า

บุคคลผู้ที่ก่อความวุ่นวายนั้น ได้ผ่านรั้วกั้นพื้นที่เข้ามาบริเวณลานจอดรถของสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้สังเกตพฤติกรรมอย่างใกล้ชิดก่อนจะเข้าระงับเหตุ ส่งผลให้บุคคลดังกล่าวได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปราบปราม (ป.) พิเศษ  สภ.คลองหลวง ภ.จว.ปทุมธานี จับกุมในที่เกิดเหตุทันที ในข้อกล่าวหา เมาสุรา หรือเมาอย่างอื่น ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ประพฤติตนวุ่นวายในที่สาธารณะ  และถูกดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว การก่อเหตุครั้งนี้ เป็นพฤติกรรมเฉพาะบุคคล การถูกดำเนินคดีตามกฎหมายจึงเหมาะสมแก่เหตุแล้ว คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จึงมีความเห็นให้ยุติเรื่องไม่พิจารณาลงโทษสโมสรใดเพิ่มเติมในเหตุการณ์นี้

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 1.5 ทำลายทรัพย์สินของสถานที่จัดการแข่งขัน หรือของบุคคลใด ภายในสถานที่จัดการแข่งขัน ปรับเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 20,000 บาท และชดใช้ค่าเสียหายตามราคาประเมินให้ผู้เสียหาย

ข้อ 4.3 ใช้วัสดุอุปกรณ์ใด ๆ ที่ก่อให้เกิดการรบกวนการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน หรือนักกีฬาฟุตบอลระหว่างการแข่งขัน เช่น การเป่านกหวีด หรือการใช้แตร หรือการใช้แตรไฟฟ้า หรือฉายแสงเลเซอร์ เป็นต้น หรือกระทำการใด ๆ ที่ไม่เหมาะสมในสถานที่จัดการแข่งขัน ได้แก่ การจุดพลุ หรือจุดประทัด หรือจุดไฟเย็น หรือจุดวัตถุอื่นจนเกิดเป็นควัน หรือจุดพลุบริเวณที่ว่างด้านหลังของอัฒจันทร์ ทั้งก่อน หรือระหว่าง หรือหลังจากการแข่งขันจบลงแล้ว จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 60,000 บาท

หากผลจากการกระทำตามวรรคหนึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลใด หรือเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน หรือสถานที่ใด องค์กรสมาชิกต้นสังกัดของกองเชียร์ที่กระทำ จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 70,000 บาท ถึง 150,000 บาท และต้องรับผิดชอบต่อค่ารักษาพยาบาลของผู้ที่ได้รับอันตราย และค่าเสียหายของทรัพย์สินหรือสถานที่ รวมทั้งอาจถูกพิจารณาเพิ่มโทษ

ข้อ 4.4 กองเชียร์ทีมใด หรือกลุ่มบุคคลใด หรือบุคคลใด ขว้างปาหรือกระทำด้วยประการใด ให้วัสดุหรือสิ่งของอื่นใด เข้าไปในสนามก็ดี หรือกระทำต่อนักกีฬาฟุตบอล หรือเจ้าหน้าที่ทีม หรือกองเชียร์ทีมคู่แข่งขัน หรือเจ้าหน้าที่การแข่งขันก็ดี องค์กรสมาชิกต้นสังกัดของกองเชียร์ที่เป็นผู้กระทำ และ/หรือ องค์กรสมาชิกที่เป็นทีมเหย้าที่ปล่อยให้มีการกระทำดังกล่าวต้องรับโทษ จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 60,000 บาท

บทที่ 3 ระเบียบว่าด้วยการลงโทษวินัย มารยาท สำหรับการแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพ และรายการกีฬาฟุตบอลอื่น ๆ ของสมาคม 

ข้อความว่า “กรณีที่องค์กรสมาชิก (ทีม) นักกีฬาฟุตบอล เจ้าหน้าที่ทีม กองเชียร์ขององค์กรสมาชิก หรือเจ้าหน้าที่การแข่งขัน กระทำความผิดตามระเบียบนี้ซ้ำในข้อเดียวกันภายในฤดูกาลแข่งขันเดียวกัน ให้พิจารณาเพิ่มโทษอีกไม่เกินกึ่งหนึ่งของกำหนดโทษที่จะลง”

4. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยวีเมนส์ลีก 2 วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร พบ สโมสร บีจี พีทียู ท่าโขลง 

- เหตุการณ์
1) หลังจบการแข่งขันในครึ่งเวลาแรก นายพิษณุ มาสุข หัวหน้าผู้ฝึกสอน สโมสร โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร มีรายชื่อลงทำหน้าที่ในนัดดังกล่าวตามเอกสารใบ OFFICIAL LIST ได้เข้าไปทักท้วงผู้ตัดสิน บริเวณข้างสนามด้วยอารมณ์โมโหที่เสียจุดโทษ ในขณะที่ผู้ตัดสินกำลังเดินทางกลับเข้าห้องพักผู้ตัดสิน ในกรณีตัดสินจุดโทษ ในนาทีที่ 44 และทำท่าทีไม่พอใจ โดยทางทีมตำรวจได้มีการห้ามปรามจังหวะดังกล่าว ก่อนที่นายพิษณุ มาสุข ได้เดินกลับไปและบันดาลโทสะโดยการใช้มือทุบบริเวณหลังคาที่นั่งสำรอง โดยทีมงานผู้ตัดสินทั้ง 4 คนเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ 

2) หลังจบการแข่งขัน นายกฤตภาส ใยขันธ์ ผู้ฝึกสอนสโมสร บีจี พีทียู ท่าโขลง มีรายชื่อลงทำหน้าที่ในนัดดังกล่าวตามเอกสารใบ OFFICIAL LIST ได้เดินมายังทีมงานผู้ตัดสิน และพูดจาเชิงเหยียดหยามผู้ตัดสิน ก่อนที่จะเดินกลับไปยังที่นั่งสำรองของทีมตนเอง โดยทีมงานผู้ตัดสินทั้ง 4 คนเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งเหตุผลที่ทำให้นายกฤตภาส มีอารมณ์ดังกล่าว เกิดจากการที่เกมการแข่งขันมีการเปลี่ยน เนื่องจากในครึ่งเวลาหลังสโมสรบีจี พีทียู ท่าโขลง ถูกพลิกขึ้นนำ 

- ผลพิจารณาโทษ
 1) ลงโทษนายพิษณุ มาสุข หัวหน้าผู้ฝึกสอน สโมสร โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร แสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าสาธารณชน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 2.5 ถูกพักการทำหน้าที่ 2 นัด และปรับเงิน 10,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยวีเมนส์ลีก 2 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 2,500 บาท

2) ลงโทษนายกฤตภาส ใยขันธ์ ผู้ฝึกสอนสโมสร บีจี พีทียู ท่าโขลง ด่าบุคคลใด ด้วยถ้อยคำที่ดูหมิ่น เหยียดหยาม มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 2.6 ถูกพักการทำหน้าที่ 2 นัด และปรับเงิน 40,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยวีเมนส์ลีก 2 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 10,000 บาท

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 2.5 แสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าสาธารณชน เช่น เข้าไปประท้วงการตัดสินของผู้ตัดสิน ผู้ช่วยผู้ตัดสิน แสดงกิริยาก้าวร้าว ข่มขู่เจ้าหน้าที่การแข่งขัน หรือกระทำการยั่วยุ อันอาจเป็นเหตุนำไปสู่ความไม่สงบเรียบร้อยในสถานที่จัดการแข่งขัน การแสดงสัญลักษณ์ต่าง ๆ หรือใช้ภาษากายที่สังคมทั่วไปเห็นว่าไม่เหมาะสมต่อบุคคลใด หรือปลุกเร้านักกีฬาฟุตบอลอันอาจนำไปสู่เหตุการณ์ที่รุนแรง ทั้งก่อน ระหว่าง หรือหลังการแข่งขัน ถูกพักการทำหน้าที่ 2 นัด และปรับเงิน 10,000 บาท ถึง 20,000 บาท

ข้อ 2.6 กรณีด่าบุคคลใด ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย หรือเยาะเย้ย ดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือแสดงกิริยาก้าวร้าว ข่มขู่ เช่น การเหยียดผิวหรือเชื้อชาติบุคคลใดด้วยพฤติกรรมที่ชัดแจ้ง ทั้งภาษากาย ถูกพักการทำหน้าที่ 2 นัด และปรับเงิน 40,000 บาท

ข่าวสารอื่นๆ

Competitions

29 May 2025

ลำพูน-บุรีรัมย์ แถลงข่าวก่อนการแข่งขัน ฟุตบอล รีโว่ คัพ ฤดูกาล 2024/25 รอบชิงชนะเลิศ

ลำพูน-บุรีรัมย์ แถลงข่าวก่อนการแข่งขัน ฟุตบอล รีโว่ คัพ ฤดูกาล 2024/25 รอบชิงชนะเลิศ

National Team Men

29 May 2025

ทีมชาติไทย U23 ร่วมสาย มาเลเซีย, เลบานอน, มองโกเลีย ศึกชิงแชมป์เอเชีย U23 รอบคัดเลือก

ทีมชาติไทย U23 ร่วมสาย มาเลเซีย, เลบานอน, มองโกเลีย ศึกชิงแชมป์เอเชีย U23 รอบคัดเลือก

Futsal & Beach Soccer

28 May 2025

ประกาศ : รายชื่อ 21 แข้ง ฟุตซอลหญิงทีมชาติไทย เก็บตัวฝึกซ้อม เตรียมลุยศึกฟุตซอลโลก 2025 และ ซีเกมส์ ครั้งที่ 33

ประกาศ : รายชื่อ 21 แข้ง ฟุตซอลหญิงทีมชาติไทย เก็บตัวฝึกซ้อม เตรียมลุยศึกฟุตซอลโลก 2025 และ ซีเกมส์ ครั้งที่ 33