13 November 2024
9 เดือนที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จัดประชุม ครั้งที่ 14 ประจำฤดูกาล 2567/68 โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน ได้พิจารณากรณีเหตุการณ์ไม่ปกติของการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการ ไทยลีก 1
1. วันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 คู่ระหว่างสโมสร อุทัยธานี เอฟซี พบ สโมสร นครปฐม ยูไนเต็ด
- เหตุการณ์
ในช่วงหมดเวลาการแข่งขันครึ่งเวลาแรก มีเหตุการณ์กระทบกระทั่ง มีการยั่วยุกัน ของกองเชียร์ของสโมสร อุทัยธานี เอฟซี และ กองเชียร์สโมสร นครปฐม ยูไนเต็ด โดยมีกองเชียร์ของสโมสร อุทัยธานี เอฟซี ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามขวามือของอัฒจันทร์หลัก ใส่เสื้อสีดำ เดินไปเหยียบธงเชียร์ของสโมสร นครปฐม ยูไนเต็ด ทำให้เกิดความไม่พอใจกัน และได้ลงมาทะเลาะวิวาทกัน บริเวณหลังอัฒจันทร์ฝั่งกองเชียร์ทีมเยือน แต่ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เข้าระงับเหตุและควบคุมสถานการณ์ไว้
- ผลพิจารณา
1) ลงโทษกองเชียร์สโมสร อุทัยธานี เอฟซี ก่อการทะเลาะวิวาท ในสถานที่จัดการแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.10 ปรับเงิน 100,000 บาท
2) ลงโทษสโมสร อุทัยธานี เอฟซี ไม่สามารถป้องกันเหตุที่เกิดขึ้นจากการกระทำในสถานที่จัดการแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.18 (2) ปรับเงิน 10,000 บาท
3) ลงโทษกองเชียร์สโมสร นครปฐม ยูไนเต็ด แม้ไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุก่อน แต่ได้กระทำการตอบโต้จนเหตุการณ์บานปลาย มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.10 วรรคสาม ปรับเงิน 50,000 บาท
- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 4.10 กองเชียร์ก่อการทะเลาะวิวาท ในสถานที่จัดการแข่งขัน องค์กรสมาชิกต้นสังกัดของกองเชียร์ที่ก่อเหตุ จะถูกปรับเงิน 100,000 บาท
หากการทะเลาะวิวาทที่เกิดขึ้น ทำให้การแข่งขันนัดนั้นต้องยุติลง องค์กรสมาชิกต้นสังกัดของกองเชียร์ที่ก่อเหตุ จะต้องรับผิดชอบต่อค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สิน ตลอดจนค่าเสียหายตามที่ฝ่ายสิทธิประโยชน์เรียกร้อง และให้ปรับทีมนั้นเป็นแพ้
ส่วนกองเชียร์คู่กรณีที่ไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุก่อน แต่ได้กระทำการตอบโต้จนเหตุการณ์บานปลายออกไป ให้มีโทษถูกปรับเงิน 50,000 บาท
ข้อ 5.3.18 ความบกพร่องด้านการรักษาความปลอดภัยในวันแข่งขัน
(2) หากองค์กรสมาชิกที่เป็นทีมเหย้า ไม่สามารถป้องกันหรือระงับเหตุที่เกิดขึ้นจากการกระทำในสถานที่จัดการแข่งขันไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตาม และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นภาพลบต่อการแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพ จะถูกลงโทษปรับเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 100,000 บาท และ/หรือ ห้ามจัดการแข่งขันในฐานะทีมเหย้า 1 นัดเป็นอย่างน้อย จนกว่าจะแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นให้ผ่านการรับรองจากฝ่ายจัดการแข่งขัน
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จัดประชุม ครั้งที่ 14 ประจำฤดูกาล 2567/68 โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน ได้พิจารณากรณีเหตุการณ์ไม่ปกติของการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการ ไทยลีก 2
1. วันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 คู่ระหว่างสโมสร พลังกาญจน์ เอฟซี พบ สโมสร พัทยา ยูไนเต็ด
- เหตุการณ์
ก่อนการแข่งขันได้รับแจ้งจาก Security Officer สโมสร พลังกาญจน์ เอฟซี ว่าแฟนบอลสโมสร พัทยา ยูไนเต็ด บางส่วน มีการจุดพลุควันบริเวณลานจอดรถข้างสนามแข่งขันด้านหลังอัฒจันทร์กองเชียร์ทีมเยือน และใกล้กับรถบัสของกองเชียร์สโมสร พัทยา ยูไนเต็ด ซึ่งอยู่ในสถานที่จัดการแข่งขัน ตามภาพที่ได้รับจากฝ่ายรักษาความปลอดภัย และเวลาตั้งแต่จุดจนดับใช้เวลาประมาณ 5 นาที
- ผลพิจารณา
ลงโทษกองเชียร์สโมสร พัทยา ยูไนเต็ด กระทำการที่ไม่เหมาะสมในสถานที่จัดการแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.3 ปรับเงิน 40,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 2 จึงลงโทษปรับสองในสาม ปรับเงิน 26,666 บาท
- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 4.3 ใช้วัสดุอุปกรณ์ใด ๆ ที่ก่อให้เกิดการรบกวนการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน หรือนักกีฬาฟุตบอลระหว่างการแข่งขัน เช่น การเป่านกหวีด หรือการใช้แตร หรือการใช้แตรไฟฟ้า หรือฉายแสงเลเซอร์ เป็นต้น หรือกระทำการใด ๆ ที่ไม่เหมาะสมในสถานที่จัดการแข่งขัน ได้แก่ การจุดพลุ หรือจุดประทัด หรือจุดไฟเย็น หรือจุดวัตถุอื่นจนเกิดเป็นควัน หรือจุดพลุบริเวณที่ว่างด้านหลังของอัฒจันทร์ ทั้งก่อน หรือระหว่าง หรือหลังจากการแข่งขันจบลงแล้ว จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 60,000 บาท
หากผลจากการกระทำตามวรรคหนึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลใด หรือเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน หรือสถานที่ใด องค์กรสมาชิกต้นสังกัดของกองเชียร์ที่กระทำ จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 70,000 บาท ถึง 150,000 บาท และต้องรับผิดชอบต่อค่ารักษาพยาบาลของผู้ที่ได้รับอันตราย และค่าเสียหายของทรัพย์สินหรือสถานที่ รวมทั้งอาจถูกพิจารณาเพิ่มโทษ
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จัดประชุม ครั้งที่ 14 ประจำฤดูกาล 2567/68 โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน ได้พิจารณากรณีเหตุการณ์ไม่ปกติของการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการ PEA U-23 YOUNGSTER LEAGUE
1. วันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 คู่ระหว่างสโมสร พัทยา ยูไนเต็ด พบ สโมสร หนองบัว พิชญ เอฟซี
- เหตุการณ์
หลังจบเกมการแข่งขัน ขณะที่ทีมงานผู้ตัดสินกำลังเดินออกจากสนามแข่งขันเพื่อเข้าห้องพักผู้ตัดสิน ได้มีเจ้าหน้าที่ทีมชื่อ นายนพรัตน์ พัชรวิลาศ ซึ่งไม่มีชื่ออยู่ใน official list ของสโมสร พัทยา ยูไนเต็ดในวันนี้ ได้เดินเข้ามาหาผู้ตัดสิน และด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย เนื่องจากไม่พอใจการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน หลังจากนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามากันตัวเจ้าหน้าที่ทีมคนดังกล่าวออกไป
- ผลพิจารณา
ลงโทษนายนพรัตน์ พัชรวิลาศ เจ้าหน้าที่ทีม สโมสร พัทยา ยูไนเต็ด ด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 2.6 ถูกพักการทำหน้าที่ 2 นัด และปรับเงิน 40,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 10,000 บาท
- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 2.6 กรณีด่าบุคคลใด ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย หรือเยาะเย้ย ดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือแสดงกิริยาก้าวร้าว ข่มขู่ เช่น การเหยียดผิวหรือเชื้อชาติบุคคลใดด้วยพฤติกรรมที่ชัดแจ้ง ทั้งภาษากาย ถูกพักการทำหน้าที่ 2 นัด และปรับเงิน 40,000 บาท
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จัดประชุม ครั้งที่ 14 ประจำฤดูกาล 2567/68 โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน ได้พิจารณากรณีเหตุการณ์ไม่ปกติของการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการ ไทยลีก 3
1. วันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 คู่ระหว่างสโมสร พัทลุง เอฟซี พบ สโมสร นรา ยูไนเต็ด
- เหตุการณ์
กรณีที่ 1 หลังจบการแข่งขัน นายวสันต์ รักดี เจ้าหน้าที่มีเดีย สโมสร นรา ยูไนเต็ด ได้มายืนดักรอผู้ตัดสินบริเวณลู่วิ่ง และได้เข้ามาพูดกับผู้ตัดสินว่า ในลักษณะก้าวร้าว ข่มขู่ผู้ตัดสิน
กรณีที่ 2 หลังจบการแข่งขัน กองเชียร์สโมสร นรา ยูไนเต็ด ได้วิ่งมาจากอัฒจันทร์ที่นั่งฝั่งทีมเยือน ผ่าน รั้วกั้นระหว่างทีมเหย้าและทีมเยือน เพื่อวิ่งมาปาขวดน้ำ ใส่ผู้ตัดสิน ขวดน้ำได้โดนผู้ตัดสินที่ 4 และวิ่งกลับไปฝั่งอัฒจันทร์
- ผลพิจารณา
1) ลงโทษนายวสันต์ รักดี เจ้าหน้าที่มีเดีย สโมสร นรา ยูไนเต็ด ข่มขู่ผู้ตัดสิน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 2.6 ถูกพักการทำหน้าที่ 2 นัด และปรับเงิน 40,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 10,000 บาท
2) ลงโทษกองเชียร์สโมสร นรา ยูไนเต็ด ขว้างปาวัสดุใด ๆ เข้าไปในสนาม เป็นการกระทำต่อเจ้าหน้าที่การแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.4 ปรับเงิน 30,000 บาท เนื่องจากกองเชียร์สโมสร นรา ยูไนเต็ด ถูกลงโทษไปแล้วจากการกระทำผิด เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2567 เป็นการกระทำความผิดตามระเบียบนี้ซ้ำในข้อเดียวกันภายในฤดูกาลแข่งขันเดียวกัน ตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 ให้พิจารณาเพิ่มโทษอีกไม่เกินกึ่งหนึ่งของกำหนดโทษที่จะลง จึงเพิ่มโทษกองเชียร์สโมสร นรา ยูไนเต็ด ปรับเงินเพิ่มอีก 15,000 บาท รวมโทษปรับเงิน 45,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 11,250 บาท
3) สโมสร พัทลุง เอฟซี มีความบกพร่องในการตรวจเช็ค หรือควบคุมไม่ให้กองเชียร์หรือบุคคลใดนำวัสดุต้องห้ามเข้าไปในสถานที่จัดการแข่งขันหรืออัฒจันทร์ มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.18 (1) ปรับเงิน 30,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 7,500 บาท
- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 2.6 กรณีด่าบุคคลใด ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย หรือเยาะเย้ย ดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือแสดงกิริยาก้าวร้าว ข่มขู่ เช่น การเหยียดผิวหรือเชื้อชาติบุคคลใดด้วยพฤติกรรมที่ชัดแจ้ง ทั้งภาษากาย ถูกพักการทำหน้าที่ 2 นัด และปรับเงิน 40,000 บาท
ข้อ 4.4 กองเชียร์ทีมใด หรือกลุ่มบุคคลใด หรือบุคคลใด ขว้างปาหรือกระทำด้วยประการใด ให้วัสดุหรือสิ่งของอื่นใด เข้าไปในสนามก็ดี หรือกระทำต่อนักกีฬาฟุตบอล หรือเจ้าหน้าที่ทีม หรือกองเชียร์ทีมคู่แข่งขัน หรือเจ้าหน้าที่การแข่งขันก็ดี องค์กรสมาชิกต้นสังกัดของกองเชียร์ที่เป็นผู้กระทำ และ/หรือ องค์กรสมาชิกที่เป็นทีมเหย้าที่ปล่อยให้มีการกระทำดังกล่าวต้องรับโทษ จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 60,000 บาท
ข้อ 5.3.18 ความบกพร่องด้านการรักษาความปลอดภัยในวันแข่งขัน
(1) บกพร่องในการตรวจเช็คหรือควบคุมไม่ให้กองเชียร์หรือบุคคลใด นำขวดน้ำ พลุ ประทัดดอกไม้ไฟ หรือวัสดุที่สามารถนำไปใช้ในการทำร้ายกันได้ เข้าไปในสถานที่จัดการแข่งขัน หรืออัฒจันทร์ จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 50,000 บาท
2. วันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 คู่ระหว่างสโมสร มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ พบ สโมสรโดม เอฟซี
- เหตุการณ์
ทั้งสองสโมสรออกจากห้องพักนักกีฬาล่าช้า เป็นเหตุทำให้เริ่มการแข่งขันครึ่งเวลาหลังล่าช้า 3 นาที ไม่เป็นไปตามเวลาที่กำหนด (OFFICIAL COUNTDOWN)
- ผลพิจารณา
1) ลงโทษสโมสร มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ไม่ทำตามกำหนดการขั้นตอนและการนับเวลาถอยหลัง (OFFICIAL COUNTDOWN) ซึ่งเป็นการกระทำผิดครั้งที่สอง (ครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2567) มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 3.6 เป็นความผิดครั้งที่สอง ปรับเงิน 10,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 2,500 บาท และหากผู้ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดได้เรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ให้สมาคมกีฬาฟุตบอลต้องรับผิดชอบนั้น สโมสรจะต้องเป็นผู้ชดใช้ค่าเสียหายนั้น ๆ เองทั้งหมดด้วย (ถ้ามี)
2) ลงโทษสโมสร โดม เอฟซี ไม่ทำตามกำหนดการขั้นตอนและการนับเวลาถอยหลัง (OFFICIAL COUNTDOWN) มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 3.6 เป็นความผิดครั้งแรก จึงลงโทษเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรว่าให้สโมสรปฏิบัติตามกำหนดการขั้นตอนและการนับเวลาถอยหลังอย่างเคร่งครัด และหากผู้ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดได้เรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ให้สมาคมกีฬาฟุตบอลต้องรับผิดชอบนั้น สโมสรจะต้องเป็นผู้ชดใช้ค่าเสียหายนั้น ๆ เองทั้งหมดด้วย (ถ้ามี)
- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 3.6 ต้องทำตามกำหนดการ ขั้นตอน และการนับเวลาถอยหลัง (OFFICIAL COUNTDOWN) ภายในระยะเวลาที่กำหนด มิฉะนั้นจะเป็นความผิด ไม่ว่าจะเริ่มการแข่งขันในเวลาได้หรือไม่ก็ตาม
- ครั้งแรก เตือนเป็นลายลักษณ์อักษร และ/หรือ ชดใช้ค่าเสียหายให้กับสมาคม (ถ้ามี)
- ครั้งต่อไป จะถูกปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 60,000 บาท และ/หรือ ชดใช้ค่าเสียหายให้กับสมาคม (ถ้ามี)
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จัดประชุม ครั้งที่ 14 ประจำฤดูกาล 2567/68 โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน ได้พิจารณาเรื่องร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน
1. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการ “รีโว่ ไทยลีก” ไทยลีก 1 วันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 คู่ระหว่างสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ สโมสร พีที ประจวบ เอฟซี (สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์)
- เหตุการณ์
ในนาทีที่ 58 จากจังหวะลูกยิงนอกกรอบเขตโทษของผู้เล่นหมายเลข 41 นาย พันธมิตร ประพันธ์ สโมสร พีที ประจวบ เอฟซี นั้นลูกบอลได้ไปเข้าทางผู้เล่นหมายเลข 99 Mr. WOOGEUN JEONG สโมสร พีที ประจวบ เอฟซี และสามารถยิงประตูเข้าไป ซึ่งผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ยกธงแจ้งว่าเป็นลูกล้ำหน้า แต่หลังจากที่ VAR ได้ทำการตรวจสอบแล้วได้แจ้งกับผู้ตัดสินว่าผู้เล่นคนดังกล่าวไม่ได้อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ผู้ตัดสินจึงได้ตัดสินว่าไม่ล้ำหน้าและให้เป็นประตูกับสโมสร พีที ประจวบ เอฟซี
- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษ นาย มงคลชัย เพชรศรี ผู้ตัดสินวีดิทัศน์ (VAR) ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษ ข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 1 สัปดาห์ เนื่องจากร่างกายส่วนบนของผู้เล่นหมายเลข 99 Mr. WOOGEUN JEONG สโมสร พีที ประจวบ เอฟซี อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ถือเป็นการกระทำผิดตามกติกาข้อ 11 Offside แต่ผู้ตัดสินวีดิทัศน์ (VAR) ใช้การตรวจสอบที่บริเวณส่วนของเท้าของผู้เล่นคนดังกล่าว จึงแจ้งผู้ตัดสินว่าไม่ล้ำหน้า ถือว่าเป็นการตัดสินที่ไม่ถูกต้อง
2. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการไทยลีก 3 วันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 คู่ระหว่างสโมสร พัทลุง เอฟซี พบ สโมสร เอฟซี ยะลา (สโมสรเอฟซี ยะลา ร้องเรียนมา 2 เหตุการณ์)
- เหตุการณ์ที่ 1
ในนาทีที่ 90+3 สโมสร เอฟซี ยะลา เสียจุดโทษจากจังหวะที่ผู้เล่นสโมสร เอฟซี ยะลา ทำฟาล์วใส่ผู้เล่นหมายเลข 5 นาย เอกพงศ์ ทอชุม สโมสร พัทลุง เอฟซี ที่ได้ยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าอยู่ก่อนแล้ว แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 กลับไม่ได้ยกธงเป็นล้ำหน้า
- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษ นาย ธรรณพัชร คงดี ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษ ข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 2 เดือน เนื่องจากก่อนที่ผู้เล่นหมายเลข 5 นายเอกพงศ์ ทอชุม สโมสร พัทลุง เอฟซี จะได้ครอบครองบอลและถูกทำฟาล์วนั้น ผู้เล่นคนดังกล่าวได้ยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 กลับไม่ได้ยกธงแจ้งผู้ตัดสิน ถือว่าปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้อง
- เหตุการณ์ที่ 2
เหตุการณ์ที่ 2 ในนาทีที่ 90+7 ผู้เล่นของสโมสร เอฟซี ยะลา โดนผู้เล่นสโมสร พัทลุง เอฟซี เข้ามาปะทะจากข้างหลังในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่ได้เป่าฟาล์วและให้จุดโทษกับสโมสร เอฟซี ยะลา
- ผลพิจารณาโทษ
พฤติกรรมของผู้เล่นหมายเลข 3 นายธนกร โตม่วย สโมสร พัทลุง เอฟซี ที่เข้ามาได้สกัดโดนที่ลูกบอล ก่อนที่ผู้เล่นหมายเลข 48 นายเจะฮานาฟี มามะ สโมสร เอฟซี ยะลา จะล้มลงนั้น จะเห็นได้ว่าลูกบอลได้มีการเปลี่ยนทิศทางอย่างชัดเจน ซึ่งไม่มีการกระทำผิดกติกาแต่อย่างใด ผู้ตัดสินให้เล่นต่อไปถือว่าตัดสินได้ถูกต้อง
Competitions
21 August 2025
"มาดามแป้ง" อนุมัติจ่ายเงินสนับสนุน ศึก BYD DOLPHIN ลีกสามงวดแรก 25% วันที่ 22 ส.ค. นี้ ก่อนเปิดฤดูกาล 3 สัปดาห์
National Team Women's
21 August 2025
"ธิดารัตน์ วิวาสุขุ" ให้สัมภาษณ์หลังเกม ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี พบ ออสเตรเลีย ในศึกชิงแชมป์อาเซียน รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ซีนัดแรก
National Team Women's
21 August 2025
ฟุตบอลหญิงไทย U16 พ่าย ออสเตรเลีย U16 1-2 ประเดิมศึกชิงแชมป์อาเซียน 2025