สรุปผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ครั้งที่ 11 ประจำฤดูกาล 2568/69

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จัดประชุม ครั้งที่ 11 ประจำฤดูกาล 2568/69 โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน

พิจารณาเรื่องร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน 

1. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ซีไลออน ซิกส์ ลีกหนึ่ง วันที่ 24 ตุลาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสรการท่าเรือ เอฟซี พบ สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด (สโมสรการท่าเรือ เอฟซี ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ 
ในนาทีที่ 28 หลังจากที่ผู้เล่นหมายเลข 5 นายพีรดนย์ ฉํ่ารัศมี สโมสรการท่าเรือ เอฟซี ยิงประตูเข้าไป ผู้ตัดสินทำการเช็ค VAR และได้ปฏิเสธที่จะให้ประตูดังกล่าว เนื่องจากมองว่าผู้เล่นหมายเลข 18 Mr. BRAYAN ANDRES PEREA VARGAS สโมสรการท่าเรือ เอฟซี อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า และขีดขวางการมองเห็นของผู้รักษาประตูสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งทางโมสรฯ มองว่า ผู้เล่นคนดังกล่าวไม่ได้มีส่วนร่วมกับการทำประตู และไม่ได้ขีดขวางการมองเห็นของผู้รักษาประตูสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด      

- ผลพิจารณา
ลงโทษนายมงคลชัย เพชรศรี ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 3 สัปดาห์ เนื่องจากผู้เล่นหมายเลข 18 Mr. BRAYAN ANDRES PEREA VARGAS สโมสรการท่าเรือ เอฟซี อยู่ห่างจากผู้รักษาประตูด้านซ้ายพอสมควร ไม่ได้บดบังทัศนวิสัยหรือมุมมองของผู้รักษาประตู และไม่ได้แสดงกิริยา หรือการกระทำใดที่ส่อให้เห็นว่ามีเจตนาเข้าร่วมเล่นบอล โดยผู้เล่นคนดังกล่าว ยังได้ยกมือขึ้นแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับการเล่นลูกนั้น เมื่อพิจารณาจังหวะการยิงประตู พบว่าผู้รักษาประตูสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ยืนอยู่บริเวณกึ่งกลางประตู สามารถมองเห็นการเล่นและการยิงได้อย่างชัดเจน การที่ผู้ตัดสินไปตรวจสอบ VAR แล้วเห็นว่า ผู้เล่นอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า และขวางการมองเห็นของผู้รักษาประตูทีมเมืองทอง ยูไนเต็ด ถือว่าตัดสินไม่ถูกต้อง 

2. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ซีไลออน ซิกส์ ลีกหนึ่ง วันที่ 25 ตุลาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสรพีที ประจวบ เอฟซี พบ สโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี (สโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ร้องเรียนมา 3 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ที่ 1 
ในนาทีที่ 4 ผู้เล่นหมายเลข 23 Mr. DENNIS MURILLO SKRZYPIEC สโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ถูกผู้รักษาประตูหมายเลข 39 นายวัฒนชัย สระทองจันทร์ สโมสรพีที ประจวบ เอฟซี ขัดขวางในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่ได้เป่าฟาวล์และให้จุดโทษ รวมทั้ง VAR ไม่ได้เรียกให้ผู้ตัดสินออกมาตรวจสอบ ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า เหตุการณ์ดังกล่าวควรเป็นลูกโทษ 

- ผลพิจารณา
นายกชภูมิ มีศรีเดชา ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง เนื่องจากผู้รักษาประตูหมายเลข 39 นายวัฒนชัย สระทองจันทร์ สโมสรพีที ประจวบ เอฟซี ได้เข้ามาทำการเล่นจากด้านหน้า ใช้มือสกัดลูกบอลก่อนเกิดการปะทะ การล้มของผู้เล่นหมายเลข 23 Mr. DENNIS MURILLO SKRZYPIEC สโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เป็นผลจากแรงเฉื่อยของการวิ่งเข้าหาผู้รักษาประตูเอง ซึ่งไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ทัน ถือเป็นการปะทะกันจากการพยายามเล่น
ลูกบอลตามปกติของฟุตบอล (Football Understanding)  

- เหตุการณ์ที่ 2
ในนาทีที่ 54 ผู้เล่นหมายเลข 11 นายเดอนี่ โปล คูณ ดาร์เบอเล่ย์ สโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ถูกผู้เล่นหมายเลข 74 นายพลเอก มณีกร สโมสรพีที ประจวบ เอฟซี ย่ำบริเวณข้อเท้าด้านหลังจนรองเท้าหลุด ผู้ตัดสินให้ฟาวล์และให้ใบเหลือง ทาง VAR ได้เรียกให้ผู้ตัดสินออกมาตรวจสอบ เมื่อผู้ตัดสินตรวจสอบแล้ว ยังคงยืนยันคำตัดสินเดิม ซึ่งทางสโมสรฯ เห็นว่า เหตุการณ์นี้เป็นการเล่นที่รุนแรง มีโอกาสก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บรุนแรง ควรเป็นใบแดง การกระทำดังกล่าวเป็นการเล่นที่ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อคู่ต่อสู้ 

- ผลพิจารณา
1) ลงโทษนายกชภูมิ มีศรีเดชา ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 2 สัปดาห์ เนื่องจากผู้เล่นหมายเลข 74 นายพลเอก มณีกร สโมสรพีที ประจวบ เอฟซี ใช้เท้าย่ำบริเวณเหนือข้อเท้าด้านหลัง (บริเวณเอ็นร้อยหวาย) ของผู้เล่นหมายเลข 11 นายเดอนี่ โปล คูณ ดาร์เบอเล่ย์ สโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ด้วยลักษณะที่มีความเร็วและแรง โดยเหยียดเท้าและเปิดหน้าเท้าเหยียบลงไปที่บริเวณใต้น่องเหนือข้อเท้า ซึ่งเป็นจุดอันตราย ถือว่ากระทำผิดกติกาในลักษณะ “สกัดกั้นการเคลื่อนที่จากด้านหลัง (Tackle or Challenge)” และเป็นการ “ใช้กำลังแรงเกินกว่าเหตุ (Using Offensive Force)” ซึ่งเป็นความผิดที่ต้องลงโทษด้วยใบแดง  

2) ลงโทษผู้เล่นหมายเลข 74 นายพลเอก มณีกร สโมสรพีที ประจวบ เอฟซี มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.19 ประกอบกับ ข้อ 1.1.2 (3) ใบแดง (Serious Foul Play) ถูกพักการแข่งขัน 1 นัด และปรับเงิน 10,000 บาท     

- เหตุการณ์ที่ 3
ในนาทีที่ 85 ผู้เล่นหมายเลข 14 Mr. HIROTAKA MITA สโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ถูกผู้รักษาประตูหมายเลข 39 นายวัฒนชัย สระทองจันทร์ สโมสรพีที ประจวบ เอฟซี ขัดขวางในเขตโทษ ผู้ตัดสินได้เป่าฟาลว์และให้เป็นลูกโทษ แต่ภายหลังการตรวจสอบภาพ VAR ได้กลับคำตัดสิน โดยยกเลิกลูกโทษ ซึ่งทางสโมสรฯ เห็นว่า ผู้เล่นคนดังกล่าวมีโอกาสทำประตู หากไม่ถูกขัดขวางโดยการกระทำของผู้รักษาประตู จึงควรเป็นลูกโทษ

- ผลพิจารณา
นายกชภูมิ มีศรีเดชา ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง เนื่องจากผู้เล่นหมายเลข 14 Mr. HIROTAKA MITA สโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ได้เตะลูกบอลออกไปไกลตัวและลูกบอลกลิ้งออกนอกสนาม ขณะที่ผู้รักษาประตูหมายเลข 39 นายวัฒนชัย สระทองจันทร์ สโมสรพีที ประจวบ เอฟซี อยู่ในตำแหน่งได้เปรียบและพยายามจะใช้มือเล่นลูกบอล ผู้เล่นใช้ลำตัวเบียดชนผู้รักษาประตูเอง ดังนั้น การที่ผู้ตัดสินตรวจสอบ VAR และกลับคำตัดสิน ยกเลิกการให้ลูกโทษ ถือเป็นการตัดสินที่ถูกต้อง เป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาของการใช้วีดิทัศน์ช่วยตัดสิน (VAR Protocol) 

3. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ซีไลออน ซิกส์ ลีกหนึ่ง วันที่ 26 ตุลาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสรสุโขทัย เอฟซี พบ สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด (สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ร้องเรียนมา 2 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ที่ 1
ในนาทีที่ 75 ขณะที่ผู้เล่นหมายเลข 4 นายฉัตรมงคล ทองคีรี สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด กำลังจะแย่งบอลกับผู้เล่นหมายเลข 10 Mr. JOHN BAGGIO MARTIAL RAKOTONOMENJANAHARY สโมสรสุโขทัย เอฟซี นั้น ผู้เล่นคนดังกล่าวได้วิ่งไปชนกับผู้ตัดสินจนล้มลง แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าหยุดการเล่น ทำให้ในจังหวะต่อมานั้น ผู้เล่นหมายเลข 8 นายรัชนาท อรัญญไพโรจน์ สโมสรสุโขทัย เอฟซี สามารถทำประตูได้ 

- ผลพิจารณา
นายชัยฤกษ์ งามสม ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง เนื่องจากตำแหน่งการยืนของผู้ตัดสิน ทิศทางการวิ่งของผู้เล่นทั้งสองคน ทิศทางการเคลื่อนที่ของลูกบอลนั้น เกิดจากการวิ่งแย่งบอลในจังหวะเร็ว และเป็นอุบัติเหตุจากการเล่น (Accidental Collision) ผู้ตัดสินไม่สามารถหลบหลีกได้ทัน และลูกบอลไม่ได้สัมผัสกับตัวผู้ตัดสิน นอกจากนี้ ผู้เล่นหมายเลข 10 Mr. JOHN BAGGIO MARTIAL RAKOTONOMENJANAHARY สโมสรสุโขทัย เอฟซี เป็นฝ่ายที่สามารถเล่นลูกบอลได้อย่างถูกต้อง ไม่มีการกระทำผิดกติกาใด ๆ และลูกบอลไม่ได้เปลี่ยนการครอบครองจากการสัมผัสของผู้ตัดสิน ดังนั้น ตามแนวทางการปฏิบัติตามกติกาข้อ 9 ลูกบอลอยู่ในและนอกการเล่น (The Ball In and Out of Play) เมื่อลูกบอลไม่ได้สัมผัสผู้ตัดสิน และไม่มีการเปลี่ยนแปลงการครอบครองบอล จึงไม่จำเป็นต้องหยุดการแข่งขัน ผู้ตัดสินได้ให้เล่นต่อไป ถือว่าปฏิบัติถูกต้องตามกติกา

- เหตุการณ์ที่ 2
ในนาทีที่ 89 ผู้เล่นหมายเลข 25 นายชัยพล อดทน สโมสรสุโขทัย เอฟซี ได้กอดรั้งและขึ้นคร่อมบนหลังของผู้เล่นหมายเลข 18 นายชนาธิป สรงกระสินธ์ สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์และให้ใบเหลืองแก่ผู้เล่นหมายเลข 25 นายชัยพล อดทน สโมสรสุโขทัย เอฟซี ต่อมา VAR แจ้งให้ผู้ตัดสินออกมาตรวจสอบ จังหวะที่ผู้เล่นหมายเลข 18 นายชนาธิป สรงกระสินธ์ สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ใช้ศอกใส่คู่แข่ง ผู้ตัดสินจึงพิจารณาให้ใบแดง ซึ่งทางสโมสรฯ เห็นว่า การเคลื่อนไหวของผู้เล่นนั้นเป็นไปตามธรรมชาติ เพื่อหลุดจากการกอดรั้ง ไม่มีเจตนาทำร้ายคู่แข่ง และไม่เข้าข่ายการเล่นผิดกติกาอย่างร้ายแรง จึงไม่ควรเป็นใบแดง

- ผลพิจารณา
นายชัยฤกษ์ งามสม ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง เนื่องจากการที่ผู้ตัดสินรอจังหวะได้เปรียบก่อนเป่าหยุดเกม เป็นการใช้ดุลพินิจที่อยู่ในกรอบกติกา การคาดโทษใบเหลืองแก่ผู้เล่นหมายเลข 25 นายชัยพล อดทน สโมสรสุโขทัย เอฟซี เป็นไปตามลักษณะการฟาวล์เดิม ส่วนการเหวี่ยงแขนของผู้เล่นหมายเลข 18 นายชนาธิป สรงกระสินธ์ สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด แม้มีเจตนาจะสลัดหลุด และใช้ข้อศอกข้างซ้ายกระแทกไปที่บริเวณใบหน้าของคู่ต่อสู้  เป็นการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ (Using Excessive Force) และเข้าข่ายการเล่นผิดกติกาอย่างร้ายแรง (Serious Foul Play) ดังนั้น การที่ผู้ตัดสินให้ใบแดงแก่ผู้เล่นหมายเลข 18 นายชนาธิป สรงกระสินธ์ สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ภายหลังการตรวจสอบจาก VAR ถือเป็นการตัดสินที่ถูกต้องตามกติกา

4. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 25 ตุลาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสรบูรพา ยูไนเต็ด พบ สโมสรฟุตบอลกองเรือรบ (สโมสรบูรพา ยูไนเต็ด ร้องเรียนมา 3 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ที่ 1 
ในนาทีที่ 55 จากเหตุชุลมุนที่เกิดขึ้น ผู้ตัดสินให้ใบแดงกับผู้เล่นหมายเลข 16 นายบารมี ลิ้มวัฒนะ สโมสรบูรพา ยูไนเต็ด ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า ผู้เล่นคนดังกล่าวไม่สมควรโดนลงโทษใบแดงในจังหวะนี้    
- ผลพิจารณา
ยกคำร้อง เนื่องจากคลิปเหตุการณ์ ไม่สามารถเห็นตำแหน่งของมือผู้เล่นหมายเลข 16 นายบารมี ลิ้มวัฒนะ สโมสรบูรพา ยูไนเต็ด ได้อย่างชัดเจน เนื่องจากมีผู้เล่นหลายคนอยู่ในบริเวณนั้นบดบังมุมกล้อง ทำให้ไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีการกระแทกบริเวณลำคอจริงหรือไม่ 

- เหตุการณ์ที่ 2
ในนาทีที่ 71 ผู้เล่นหมายเลข 10 Mr. CHINONSO KINGSLEY THOMAS สโมสรบูรพา ยูไนเต็ด ถูกผู้เล่นหมายเลข 17 นายธนกฤต กัวะแก้ว สโมสรฟุตบอลกองเรือรบ เตะเข้าที่บริเวณท้องในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาวล์ ทำให้สโมสรบูรพา ยูไนเต็ด ไม่ได้จุดโทษ 

- ผลพิจารณา
ลงโทษนายฤทธิเกียรติ จิตรตระกูล ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 6 สัปดาห์ เนื่องจากในจังหวะดังกล่าวผู้เล่นหมายเลข 17 นายธนกฤต กัวะแก้ว สโมสรฟุตบอลกองเรือรบ มีการเตะถูกบริเวณท้องของผู้เล่นฝ่ายรุกอย่างชัดเจน การกระทำดังกล่าวถือเป็นการเล่นโดยประมาทและเป็นการกระทำผิดกติกา ซึ่งควรให้สโมสรบูรพา ยูไนเต็ด ได้ลูกโทษ ดังนั้น การที่ผู้ตัดสินไม่ได้เป่าฟาวล์ ถือว่าตัดสินไม่ถูกต้อง 

- เหตุการณ์ที่ 3
 ในนาทีที่ 75 จากจังหวะเตะฟรีคิก ผู้เล่นหมายเลข 8 นายสรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ สโมสรบูรพา ยูไนเต็ด เปิดบอลให้ผู้เล่นหมายเลข 65 นายวรายุทธ กล่อมนาค สโมสรบูรพา ยูไนเต็ด โหม่งเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินกลับไม่ให้เป็นประตู  

- ผลพิจารณา
นายฤทธิเกียรติ จิตรตระกูล ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง เนื่องจากผู้ตัดสินได้สื่อสารกับผู้เล่นสโมสรบูรพา ยูไนเต็ด คนอื่น ๆ ว่าให้รอสัญญาณนกหวีด จากนั้น ผู้ตัดสินได้ใช้สเปรย์พ่นลงบนพื้น เพื่อกำหนดจุดวางลูกบอลสำหรับการเริ่มเล่นใหม่ ซึ่งถือว่าได้ดำเนินการครบถ้วนตามขั้นตอนที่กำหนด ต่อมาได้มีผู้เล่นหมายเลข 8 นายสรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ สโมสรบูรพา ยูไนเต็ด เตะลูกบอลออกไปก่อนสัญญาณนกหวีด และมีผู้ล่นอีกคนโหม่งบอลเข้าประตู ผู้ตัดสินจึงพิจารณาว่าเป็นการเริ่มเล่นที่ไม่ถูกต้อง จึงไม่ให้เป็นประตู และสั่งให้เริ่มเล่นใหม่ 

5. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 26 ตุลาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสรโคราช ซิตี้ พบ สโมสรอุดร บ้านจั่น ยูไนเต็ด (สโมสรโคราช ซิตี้ ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ 
ในนาทีที่ 69 ผู้เล่นหมายเลข 11 Mr. UGONNA BRIAN MADUAGWU สโมสรโคราช ซิตี้ ได้เตะบอลไปโดนมือผู้รักษาประตูหมายเลข 1 นายชยานันท์ คําภาหล้า สโมสรอุดร บ้านจั่น ยูไนเต็ด ที่ออกมาสไลด์ตัวนอกกรอบเขตโทษ ซึ่งในจังหวะนี้ผู้ตัดสินได้ให้ใบแดงแก่ผู้รักษาประตูแล้ว แต่หลังจากปรึกษากับผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 กลับยกเลิกการให้ใบแดงกับผู้รักษาประตู

- ผลพิจารณา
1) ลงโทษนายอธิวัฒน์ เผ่าสาลี ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 3 สัปดาห์ เนื่องจากการตัดสินครั้งแรกของผู้ตัดสินเป็นการพิจารณาที่ถูกต้อง เกี่ยวกับแฮนด์บอลของผู้รักษาประตู และการให้ใบแดงแก่ผู้รักษาประตูสอดคล้องกับองค์ประกอบของการป้องกันโอกาสในการทำประตูอย่างชัดแจ้ง (DOGSO) แต่การทักท้วงจากผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ว่าไม่แฮนด์บอลนั้น เป็นข้อมูลที่ผิดพลาด ส่งผลให้ผู้ตัดสินเกิดความเข้าใจผิด และเปลี่ยนคำตัดสินจากถูกเป็นผิด 

2) ลงโทษนายสุรชาติ ทะสังขา ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 3 สัปดาห์ เนื่องจากให้ข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริงแก่ทีมผู้ตัดสินด้วยกัน

6. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 26 ตุลาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสรนาวิกโยธิน เอฟซี พบ สโมสรคัสตอม ยูไนเต็ด (สโมสรนาวิกโยธิน เอฟซี ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์
ในนาทีที่ 87 จากจังหวะในกรอบเขตโทษ ผู้เล่นหมายเลข 50 Mr. NAOKI UEMOTO สโมสรคัสตอม ยูไนเต็ด ได้ส่งบอลให้กับเพื่อนร่วมทีม และหลังจากส่งบอลแล้ว ผู้เล่นคนดังกล่าวได้ไปชนปะทะกับผู้รักษาประตูหมายเลข 1 นายวุฒิพงษ์ เที่ยงแท้ สโมสรนาวิกโยธิน เอฟซี ที่ยืนอยู่กับที่ จนล้มลง ผู้ตัดสินได้เป่าฟาล์วและให้จุดโทษ ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า ผู้รักษาประตูไม่ได้มีเจตนาขัดขวางผู้เล่นคนดังกล่าว จึงไม่ควรเป็นการฟาวล์ 

- ผลพิจารณา
ลงโทษนายนราฤทธิ์ ศรีวรกุล  ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษ ข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 2 เดือน เนื่องจากผู้เล่นหมายเลข 50 Mr. NAOKI UEMOTO สโมสรคัสตอม ยูไนเต็ด วิ่งเข้าหาบอลด้วยความเร็ว และได้เตะลูกออกไปทางซ้ายอย่างกระชั้นชิด ทำให้ไม่สามารถหยุดหรือหลบการชนได้ทัน จึงเกิดการปะทะกับผู้รักษาประตู ในจังหวะที่ชนกันผู้รักษาประตูยกแขนขึ้นมาด้านหน้าในลักษณะป้องกันตนเองจากแรงปะทะ ไม่ได้มีเจตนาใช้แขนหรือมือกระแทกคู่ต่อสู้ ทำให้มือของผู้รักษาประตู สัมผัสใบหน้าของผู้เล่น ซึ่งถือเป็นการชนกันโดยบังเอิญ (Accidental contact) และเป็นการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติของการเล่นฟุตบอล (Football Understanding) ดังนั้น การที่ผู้ตัดสินตัดสินให้เป็นการฟาวล์และให้ลูกโทษถือว่าไม่ถูกต้อง 

7. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการเมืองไทย คัพ วันที่ 22 ตุลาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสรธนบุรี ยูไนเต็ด พบ สโมสรนนทบุรี ยูไนเต็ด  (สโมสรนนทบุรี ยูไนเต็ด ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์
ในนาทีที่ 98 (ช่วงต่อเวลาพิเศษ) จากจังหวะเตะฟรีคิกของสโมสรธนบุรี ยูไนเต็ด ผู้เล่นหมายเลข 4 กิตติพงษ์ แสนพงษ์ สโมสรธนบุรี ยูไนเต็ด ชักศอกกระแทกผู้เล่นหมายเลข 9 นายเกรียงศักดิ์ ท้าวบุตร สโมสรนนทบุรี ยูไนเต็ด จนล้มลง ก่อนจะวิ่งไปโหม่งบอลส่งให้เพื่อนร่วมทีมสามารถทำประตูเข้าไป แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาล์ว ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า ควรเป็นจังหวะฟาวล์ของสโมสรธนบุรี ยูไนเต็ด หรือควรให้เริ่มเตะใหม่ 

- ผลพิจารณา
ลงโทษนายอิสรา เกิดไทย ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษ ข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 3 สัปดาห์ เนื่องจากการเหวี่ยงแขนของผู้เล่นหมายเลข 4 นายกิตติพงษ์ แสนพงษ์ สโมสรธนบุรี ยูไนเต็ด เป็นการใช้กำลังเหวี่ยงสะบัดที่มีความแรง ส่งผลให้ผู้เล่นหมายเลข 9 นายเกรียงศักดิ์ ท้าวบุตร สโมสรนนทบุรี ยูไนเต็ด ซึ่งพยายามเบียดแย่งตำแหน่ง ล้มลง ถือเป็นการใช้มือและแขนกระทำต่อคู่ต่อสู้ในลักษณะการ “ดึง เหวี่ยง หรือสะบัด” (Holding) อันเป็นการกระทำผิดตาม กติกาข้อ 12 การกระทำผิดกติกาและความประพฤติไม่เหมาะสม (Fouls and Misconduct) ซึ่งควรให้สโมสรนนทบุรี ยูไนเต็ด ได้ฟาล์ว 

8. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ซีไลออน ซิกส์ ลีกหนึ่ง วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรพลังกาญจน์ เอฟซี พบ สโมสรอยุธยา ยูไนเต็ด 

- เหตุการณ์
ในการประชุมทีมผู้ควบคุมการแข่งขันได้แจ้งตัวแทนทั้ง 2 ทีมให้ผู้เล่นตัวจริงทั้ง 2 ทีม มาประจำที่อุโมงค์ผู้เล่น เวลา 18.17 น. (13 นาทีก่อนเริ่มทำการแข่งขัน) เนื่องจากจะมีพิธียืนไว้อาลัยให้สมเด็จพระพันปีหลวงและการร้องเพลงชาติไทย แต่ผู้เล่นทั้ง 2 ทีมได้ออกจากห้องพักล่าช้า ทำให้การแข่งขันเริ่มล่าช้าไป 2 นาที (18.32.05 น.) โดยไล่เรียงเหตุการณ์ ดังนี้  1) เวลา 18.17 - 18.19 น. ผู้ควบคุมการแข่งขันไปแจ้งทั้ง 2 ทีมที่ห้องพักนักกีฬาว่าได้เวลาออกมาที่อุโมงค์แล้ว ตัวแทนจากทั้ง 2 ทีมแจ้งผู้ควบคุมการแข่งขันว่าขอเวลาอีกสักครู่  2) เวลา 18.22 น. ผู้เล่นทั้ง 2 ทีมเริ่มทยอยเดินออกมาที่อุโมงค์  3) เวลา 18.23 น. ผู้เล่นตัวจริงทั้ง 2 ทีมทั้ง 22 คน พร้อมเดินลงสนาม ผู้ควบคุมการแข่งขันได้สั่ง GC ให้เปิดเพลงเดินลงสนาม  4) เวลา 18.24 น. ผู้เล่นตัวจริงทั้ง 2 ทีมเดินลงสนามและเข้าแถวประจำจุด หลังจากนั้นได้ร้องเพลงชาติและเพลงสรรเสริญพระบารมี  5) เวลา 18.27 น. ผู้เล่นตัวจริงทั้ง 2 ทีม ถ่ายภาพทีม  6) เวลา 18.28 น. กัปตันทั้ง 2 ทีม แลกธงกลางสนาม  7) เวลา 18.30 น. ผู้เล่นตัวจริงทั้ง 2 ทีมบูมเสร็จ และเดินไปปรบมือกับแฟนบอลของทีมตนเอง จากนั้นจึงมายืนที่วงกลมกลางสนามเพื่อยืนไว้อาลัยให้สมเด็จพระพันปีหลวง  8) เวลา 18.31.30 น. เสร็จสิ้นพิธียืนไว้อาลัย  9) เวลา 18.32.05 น. เริ่ม Kick-Off ทำการแข่งขัน

- ผลพิจารณาโทษ
1) ลงโทษสโมสรพลังกาญจน์ เอฟซี มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 3.6 ความผิดครั้งแรก จึงลงโทษเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรว่าให้สโมสรปฏิบัติตามกำหนดการขั้นตอน และการนับเวลาถอยหลังอย่างเคร่งครัด และ/หรือ ชดใช้ค่าเสียหายให้กับสมาคม (ถ้ามี)    

2) ลงโทษสโมสรอยุธยา ยูไนเต็ด มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 3.6 ความผิดครั้งที่สาม ปรับเงิน 30,000 บาท และ/หรือ ชดใช้ค่าเสียหายให้กับสมาคม (ถ้ามี)    

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 3.6 ต้องทำตามกำหนดการ ขั้นตอน และการนับเวลาถอยหลัง (OFFICIAL COUNTDOWN) ภายในระยะเวลาที่กำหนด มิฉะนั้นจะเป็นความผิด ไม่ว่าจะเริ่มการแข่งขันในเวลาได้หรือไม่ก็ตาม 

ครั้งแรก เตือนเป็นลายลักษณ์อักษร และ/หรือ ชดใช้ค่าเสียหายให้กับสมาคม (ถ้ามี)
ครั้งต่อไป จะถูกปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 60,000 บาท และ/หรือ ชดใช้ค่าเสียหายให้กับสมาคม (ถ้ามี)

9. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรนรา ยูไนเต็ด พบ สโมสรชุมพร ยูไนเต็ด 

- เหตุการณ์
สโมสรนรา ยูไนเต็ด ได้ขอความอนุเคราะห์เจ้าหน้าที่ฝ่ายพยาบาล พร้อมรถพยาบาลประจำสนามแข่งขัน จำนวน 2 คัน จากโรงพยาบาลปัตตานี แต่มีรถพยาบาลมาประจำสนามแข่งขัน จำนวน 1 คัน ตลอดการแข่งขัน 

- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษสโมสรนรา ยูไนเต็ด ไม่จัดรถพยาบาลให้ครบตามจำนวนที่กำหนดไว้ในระเบียบฯ จึงมีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.12 วรรคแรก ปรับเงิน 20,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 5,000 บาท  

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ 
ข้อ 5.3.12 ต้องจัดรถพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ พร้อมกับอุปกรณ์ช่วยชีวิต เพื่อรองรับการเจ็บป่วยฉุกเฉินของนักกีฬาฟุตบอลหรือผู้ชม จำนวน 2 คัน หรือตามจำนวนที่กำหนดไว้ในระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขันรายการนั้น ก่อนเริ่มเวลาการแข่งขันไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที มิฉะนั้นจะถูกปรับ

ครั้งแรก 20,000 บาท 
ครั้งต่อไปครั้งละ 30,000 บาท

10. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการช้าง เอฟเอ คัพ วันที่ 29 ตุลาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสรนครสวรรค์ สี่แคว ซิตี้  พบ สโมสรปัตตานี เอฟซี

- เหตุการณ์
เหตุการณ์ที่ 1 มีรถพยาบาลเพียง 1 คัน ซึ่งรถพยาบาลมาถึงสนามในเวลา 14.20 น. เป็นเวลาที่นักกีฬาทั้ง 2 ทีมกำลังอบอุ่นร่างกาย ผู้ควบคุมการแข่งขันจึงได้สอบถามกับที่ปรึกษาสโมสรนครสวรรค์ สี่แคว ซิตี้ ว่ารถพยาบาลคันที่ 2 จะมาตอนกี่โมง ได้คำตอบว่า ไม่มีรถพยาบาลมาเพิ่มแล้ว มีแค่คันเดียว ผู้ควบคุมการแข่งขันจึงให้คำแนะนำในการจัดหารถกู้ชีพกู้ภัยของเอกชน หรือหน่วยอาสาอื่น ๆ เพื่อเข้ามาทดแทนให้มีจำนวนเป็นไปตามที่กำหนด แต่ทางที่ปรึกษาสโมสรยังยืนยันเช่นเดิมว่ามีรถพยาบาลเพียงคันเดียว จนเริ่มการแข่งขันและจบการแข่งขันก็ไม่มีรถพยาบาลคันที่ 2 มาเพิ่มเติม

เหตุการณ์ที่ 2 ผู้ควบคุมการแข่งขันได้ตรวจทานใบส่งรายชื่อจึงพบว่าสโมสรปัตตานี เอฟซี ได้ส่งผู้เล่นต่างชาติลงสนามแข่งขัน 1 คน และส่งรายชื่อตัสำรองไว้ 3 คน ผู้ควบคุมการแข่งขันจึงได้เดินไปคุยกับผู้อำนวยการสโมสรปัตตานี เอฟซี ว่ามีการส่งรายชื่อผู้เล่นต่างชาติลงทำการแข่งขันได้ไม่เกิน 3 คน ผู้อำนวยการสโมสรปัตตานี เอฟซี ได้แจ้งกับผู้ควบคุมการแข่งขันว่าจะไม่ส่งผู้เล่นต่างชาติที่มีรายชื่อสำรองทั้งหมดลงสนามแข่งขัน และได้แจ้งให้ผู้เล่นต่างชาติที่มีชื่อสำรองขึ้นห้องพัก และให้ทำการเปลี่ยนชุดแข่งขันออกแยกย้ายไปอบอุ่นร่างกายและเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเพื่อเตรียมเดินทางกลับ 

- ผลพิจารณาโทษ
1) ลงโทษสโมสรนครสวรรค์ สี่แคว ซิตี้ ไม่จัดรถพยาบาลให้ครบตามจำนวนที่กำหนดไว้ในระเบียบฯ มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.12 วรรคแรก ปรับเงิน 20,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการช้าง เอฟเอ คัพ (รอบคัดเลือก) จึงลงโทษปรับหนึ่งในสาม ปรับเงิน 6,666 บาท 

2) เหตุการณ์ที่ 2 แม้สโมสรปัตตานี เอฟซี จะส่งรายชื่อนักกีฬาต่างชาติเกินจำนวนตามที่กำหนดในระเบียบฯ แต่มิได้มีการฝ่าฝืนให้นักกีฬาต่างชาติที่เกินจำนวนดังกล่าวลงสนามแข่งขันจริง และได้พยายามแก้ไขการกระทำดังกล่าวทันที โดยไม่ก่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในการแข่งขัน พฤติการณ์แสดงให้เห็นว่า สโมสรปัตตานี เอฟซี ไม่มีเจตนาชัดแจ้งที่จะฝ่าฝืนระเบียบ จึงพิจารณาลงโทษตักเตือน สโมสรปัตตานี เอฟซี ตามบทที่ 3 ของระเบียบว่าด้วยการลงโทษวินัย มารยาท 

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ 
 ข้อ 5.3.12 ต้องจัดรถพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ พร้อมกับอุปกรณ์ช่วยชีวิต เพื่อรองรับการเจ็บป่วยฉุกเฉินของนักกีฬาฟุตบอลหรือผู้ชม จำนวน 2 คัน หรือตามจำนวนที่กำหนดไว้ในระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขันรายการนั้น ก่อนเริ่มเวลาการแข่งขันไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที มิฉะนั้นจะถูกปรับ

ครั้งแรก 20,000 บาท 
ครั้งต่อไปครั้งละ 30,000 บาท

บทที่ 3 ข้อความว่า
ในกรณีที่ผู้กระทำหรือองค์กรสมาชิก ได้กระทำผิดตามระเบียบฉบับนี้เป็นครั้งแรก และพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าผู้กระทำหรือองค์กรสมาชิก ไม่มีเจตนาที่จะฝ่าฝืนระเบียบข้อดังกล่าวโดยชัดแจ้ง หากว่าการกระทำนั้นไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้หนึ่งผู้ใด หรือการกระทำนั้นผู้กระทำหรือองค์กรสมาชิกได้พยายามแก้ไขการกระทำที่ผิดระเบียบนั้น หรือองค์คณะตุลาการ เห็นว่ามีเหตุผลสมควรประการอื่น องค์คณะตุลาการอาจพิจารณาลงโทษด้วยการเตือนได้ แม้ว่าระเบียบการลงโทษในเรื่องนั้น ๆ จะไม่ได้กำหนดโทษเตือนไว้ก็ตาม 

การกระทำใด ๆ ที่แม้จะไม่ได้เป็นการฝ่าฝืนระเบียบฉบับนี้ แต่หากองค์คณะตุลาการ เห็นว่า การกระทำดังกล่าว เป็นการไม่เหมาะสมที่กระทำในการแข่งขันกีฬาฟุตบอล องค์คณะตุลาการอาจพิจารณาลงโทษด้วยการเตือนได้ ทั้งนี้ หากกระทำความผิดซ้ำอีก จะพิจารณาลงโทษตามที่องค์คณะตุลาการ จะพิจารณาตามที่เห็นสมควร