สรุปผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ครั้งที่ 37 ประจำฤดูกาล 2567/68

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จัดประชุม ครั้งที่ 37 ประจำฤดูกาล 2567/68 โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน

พิจารณาเรื่องร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน

1. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการ ไทยลีก 3 วันที่ 26 เมษายน 2568 คู่ระหว่างสโมสร ธนบุรี ยูไนเต็ด พบ สโมสร สมุทรสาคร ซิตี้  (สโมสร สมุทรสาคร ซิตี้ ร้องเรียนมา 2 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ที่ 1
ในนาทีที่ 56 ผู้เล่นหมายเลข 53 นายศราวุธ บุญรอด สโมสร ธนบุรี ยูไนเต็ด ได้สไลด์ตัวโดยการยกเท้าเปิดปุ่มเสียบใส่ผู้เล่นหมายเลข 23 นายเจษฎากร ขาวงาม สโมสร สมุทรสาคร ซิตี้ ซึ่งผู้ตัดสินได้เป่าฟาล์วและทำการคาดโทษ (ใบเหลือง) ให้ผู้เล่นหมายเลข 53 นายศราวุธ บุญรอด สโมสร ธนบุรี ยูไนเต็ด แต่ทางสโมสรฯ มองว่าในจังหวะนี้เป็นการเล่นที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ ผู้เล่นคนดังกล่าวควรได้รับการลงโทษไล่ออก (ใบแดง)  

- ผลพิจารณาโทษ
1) ลงโทษนายกฤษติณ สายสมบัติ ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 3 สัปดาห์ เนื่องจากผู้เล่นหมายเลข 53 นายศราวุธ บุญรอด สโมสร ธนบุรี ยูไนเต็ด ได้ทำการกระโดดเปิดปุ่มรองเท้าเข้าเสียบสกัดการเล่น ทำให้ไปถูกที่บริเวณขาของผู้เล่นหมายเลข 23 นายเจษฎากร ขาวงาม สโมสร สมุทรสาคร ซิตี้ เป็นการเข้าเล่นที่ใช้กำลังรุนแรงเกินจำเป็น และอาจทำให้ฝ่ายตรงข้ามได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ ถือเป็นการกระทำผิดในลักษณะของการกระทำผิดกติการ้ายแรง (Serious foul play) ผู้ที่กระทำผิดจะต้องถูกไล่ออก (Send off) ตามกติกาข้อ 12 หน้า 105 

2) ลงโทษนายภัทรพงศ์ กิจสถิตย์ ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีเหตุการณ์กระทำผิดที่ต้องถูกไล่ออกในเขตพื้นที่รับผิดชอบ แต่แจ้งให้ผู้ตัดสินให้ใบเหลือง

- เหตุการณ์ที่ 2
ในนาทีที่ 58 ผู้ตัดสินได้เป่าฟาล์วจังหวะที่ผู้เล่นหมายเลข 53 นายศราวุธ บุญรอด สโมสร ธนบุรี ยูไนเต็ด เข้าไปปะทะกับผู้เล่นหมายเลข 65 นายวรายุทธ กล่อมนาค สโมสร สมุทรสาคร ซิตี้ จากจังหวะต่อเนื่องได้เกิดการปะทะกันระหว่างผู้เล่นหมายเลข 17 นายจัตุรงค์ หลงศรีภูมิ สโมสร ธนบุรี ยูไนเต็ด กับผู้เล่นหมายเลข 32 นายรัชพล นาวันโน สโมสร สมุทรสาคร ซิตี้ จนมีเหตุชุลมุนตามมา เมื่อเหตุการณ์กลับมาปกติ ผู้ตัดสินได้ทำการคาดโทษ (ใบเหลือง) ผู้เล่นหมายเลข 32 นายรัชพล นาวันโน สโมสร สมุทรสาคร ซิตี้, ทำการไล่ออก (ใบแดง) ผู้เล่นหมายเลข 17 นายจัตุรงค์ หลงศรีภูมิ สโมสร ธนบุรี ยูไนเต็ด และผู้เล่นหมายเลข 65 นายวรายุทธ กล่อมนาค สโมสร สมุทรสาคร ซิตี้ ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า ผู้เล่นหมายเลข 65 นายวรายุทธ กล่อมนาค สโมสร สมุทรสาคร ซิตี้ เข้าไปห้ามเหตุ ไม่ได้มีการออกท่าทางจะทำการปะทะหรือทำร้ายร่างกายใด ๆ จึงไม่ควรได้รับโทษใบแดง และเหตุการณ์ในจังหวะแรก ผู้ตัดสินกลับไม่ได้มีการพิจารณาโทษย้อนหลัง ทั้ง ๆ ที่เป็นการเล่นที่เป็นอันตราย 

- ผลพิจารณาโทษ
1) ลงโทษนายกฤษติณ สายสมบัติ ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษ ข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 3 สัปดาห์ เนื่องจากหลังจากที่มีการกระโดดแย่งโหม่งลูกบอลที่ลอยอยู่ในอากาศ ผู้เล่นหมายเลข 53 นายศราวุธ บุญรอด สโมสร ธนบุรี ยูไนเต็ด ได้ยกเท้าสูงใส่ผู้เล่นหมายเลข 65 นายวรายุทธ กล่อมนาค สโมสร สมุทรสาคร ซิตี้ ในลักษณะที่เป็นการเจตนา แม้ไม่มีการปะทะที่รุนแรงหรือ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามได้รับบาดเจ็บ แต่ก็เป็นการประพฤติตนอย่างไม่มีน้ำใจนักกีฬา ในลักษณะของการขาดการยอมรับในกฎกติกาการแข่งขัน ผู้ที่กระทำผิดต้องถูกคาดโทษ (ใบเหลือง) ตามกติกาข้อ 12 หน้า 111-112 

2) ส่วนกรณีของผู้เล่นหมายเลข 32 นายรัชพล นาวันโน สโมสร สมุทรสาคร ซิตี้ ที่ได้เข้าไปเตะขัดขาผู้เล่นหมายเลข 17 นายจัตุรงค์ หลงศรีภูมิ สโมสร ธนบุรี ยูไนเต็ด แต่ไม่มีความรุนแรงมากนัก ถือเป็นการเล่นในลักษณะที่ขาดการไตร่ตรองยั้งคิด (Reckless) ผู้ตัดสินคาดโทษ (ใบเหลือง) ผู้เล่นหมายเลข 32 นายรัชพล นาวันโน สโมสร สมุทรสาคร ซิตี้ ถือว่าตัดสินถูกต้อง ตามกติกาข้อ 12 หน้า 105    

3) หลังจากนั้นผู้เล่นหมายเลข 17 นายจัตุรงค์ หลงศรีภูมิ สโมสร ธนบุรี ยูไนเต็ด ที่ถูกเตะได้ลุกขึ้นแล้ววิ่งไปหาผู้เล่นหมายเลข 32 นายรัชพล นาวันโน สโมสร สมุทรสาคร ซิตี้ ได้พูดคำหยาบคายใส่ และได้มีผู้เล่นหมายเลข 65 นายวรายุทธ กล่อมนาค สโมสร สมุทรสาคร ซิตี้ วิ่งเข้ามาพูดคำหยาบคายตอบกลับ หากเป็นจริงตามใบรายงานและจากการสอบถามทีมงานผู้ตัดสิน ความผิดของการใช้วาจาไม่สุภาพต้องถูกไล่ออก (ใบแดง) ตามกติกาข้อ 12 หน้า 113  การที่ผู้ตัดสินทำการไล่ออก (ใบแดง) ถือว่าตัดสินถูกต้อง 

** สรุปบทลงโทษ นายกฤษติณ สายสมบัติ ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ในเหตุการณ์ที่ 1-2 รวมพักการปฏิบัติหน้าที่ 6 สัปดาห์ **

2. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการ ไทยแลนด์ เซมิ โปร ลีก (TS) วันที่ 29 เมษายน 2568 คู่ระหว่างสโมสร โพธาราม เอฟซี พบ สโมสร กรินทร์ ยูไนเต็ด (สโมสร กรินทร์ ยูไนเต็ด ร้องเรียนมา 2 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ที่ 1
ในนาทีที่ 44 จังหวะที่ผู้เล่นหมายเลข 12 นายกรกฤค พูลบัว สโมสร กรินทร์ ยูไนเต็ด ยิงประตูนั้น ได้ถูกผู้เล่นหมายเลข 25 นายสุจริตพงษ์ น้อยโสภา สโมสร โพธาราม เอฟซี เปิดปุ่มเสียบเข้าข้างหลัง ทำให้ผู้เล่นคนดังกล่าวยิงบอลออกและได้รับบาดเจ็บ แต่ผู้ตัดสินกลับไม่เป่าฟาล์ว ทำให้สโมสร กรินทร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้จุดโทษ 

- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษนายอำนาจ รัตนภักดี ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 6 สัปดาห์ เนื่องจากขณะที่ผู้เล่นหมายเลข 12 นายกรกฤค พูลบัว สโมสร กรินทร์ ยูไนเต็ด กำลังจะเตะลูกบอลเพื่อทำประตู ได้ถูกผู้เล่นหมายเลข 25 นายสุจริตพงษ์ น้อยโสภา สโมสร โพธาราม เอฟซี ได้เข้ามาเสียบสกัดที่ขาจากด้านหลังจนล้มลง ถือเป็นการกระทำผิดกติกาข้อ 12 หน้า 105 ที่ต้องให้เตะโทษโดยตรง เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นในเขตโทษต้องให้เตะโทษ ณ จุดโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่มีการเป่าฟาล์ว ถือว่าตัดสินไม่ถูกต้อง 

- เหตุการณ์ที่ 2
ในนาทีที่ 77 จังหวะที่ผู้เล่นหมายเลข 15 นายกฤษฎ์ จิตกมลฉัตร สโมสร กรินทร์ ยูไนเต็ด ได้สไลด์ตัวสกัดบอล ทำให้ไปปะทะกับผู้เล่นหมายเลข 9 นายสุภคมน์ คงดี สโมสร โพธาราม เอฟซี จนล้มลงในกรอบเขตโทษ ทางสโมสรฯ มองว่า ผู้เล่นหมายเลข 15 นายกฤษฎ์ จิตกมลฉัตร สโมสร กรินทร์ ยูไนเต็ด สัมผัสโดนบอลก่อนที่ผู้เล่นหมายเลข 9 นายสุภคมน์ คงดี สโมสร โพธาราม เอฟซี จะล้มลง แต่ผู้ตัดสินเป่าฟาล์ว ทำให้สโมสร กรินทร์ ยูไนเต็ด เสียจุดโทษและเสียประตู     

- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษนายอำนาจ รัตนภักดี ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 6 สัปดาห์ เนื่องจากขณะที่มีการแย่งชิงลูกบอลในบริเวณเขตโทษ ผู้เล่นหมายเลข 15 นายกฤษฎ์ จิตกมลฉัตร สโมสร กรินทร์ ยูไนเต็ด ได้พยายามล้มตัวเพื่อสไลด์สกัดลูกบอล โดยไม่มีการกระทำผิดกติกาแต่อย่างใด ประกอบกับผู้เล่นหมายเลข 9 นายสุภคมน์ คงดี สโมสร โพธาราม เอฟซี ได้ใช้จังหวะนี้ทิ้งตัวล้มลง ผู้ตัดสินเป่าให้สโมสร โพธาราม เอฟซี ได้เตะโทษ ณ จุดโทษ ถือว่าตัดสินไม่ถูกต้อง

*สรุปบทลงโทษ ลงโทษนายอำนาจ รัตนภักดี ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ในเหตุการณ์ที่ 1-2 รวมพักการปฏิบัติหน้าที่ 12 สัปดาห์ **

พิจารณาเหตุการณ์ไม่ปกติของการแข่งขันกีฬาฟุตบอล

3. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการ รีโว่ ไทยลีก (ไทยลีก 1) วันที่ 30 เมษายน 2568 คู่ระหว่างสโมสร การท่าเรือ เอฟซี พบ สโมสร ระยอง เอฟซี

- เหตุการณ์
หลังจากการประชุมผู้จัดการทีม ผู้ควบคุมการแข่งขันได้ไปตรวจ AD CARD พบว่า ผู้เล่นหมายเลข 33 นายกิตติพัฒน์ กุลภา สโมสร ระยอง เอฟซี ไม่มี AD CARD มาแสดง สาเหตุเกิดจากได้ทำหายในนัดที่ไปเยือนสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ผ่านมา ผู้ควบคุมการแข่งขันจึงได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่แมทช์เซ็นเตอร์ ส่ง AD CARD ชั่วคราวมาให้
    
- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษผู้เล่นหมายเลข 33 นายกิตติพัฒน์ กุลภา สโมสร ระยอง เอฟซี ไม่พกพา AD Card ติดตัวมาแสดงในวันแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.2 ปรับเงิน 10,000 บาท 

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 1.2 กรณีไม่พกพา AD Card ติดตัวมาแสดงในวันแข่งขัน ปรับเงินคนละ 10,000 บาท      

4. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการ ไทยลีก 3 วันที่ 3 พฤษภาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร ธนบุรี ยูไนเต็ด พบ สโมสร ปัตตานี เอฟซี

- เหตุการณ์
 เริ่มการแข่งขันล่าช้า 2 นาที เนื่องจากสโมสรปัตตานี เอฟซี ออกจากห้องแต่งตัวช้า
    
- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษสโมสร ปัตตานี เอฟซี ไม่ปฏิบัติตามกำหนดการ ขั้นตอน และการนับเวลาถอยหลัง มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 3.6 เป็นความผิดครั้งที่สอง ปรับเงิน 20,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 5,000 บาท

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 3.6 ต้องทำตามกำหนดการ ขั้นตอน และการนับเวลาถอยหลัง (OFFICIAL COUNTDOWN) ภายในระยะเวลาที่กำหนด มbฉะนั้นจะเป็นความผิด ไม่ว่าจะเริ่มการแข่งขันในเวลาได้หรือไม่ก็ตาม 

ครั้งแรก เตือนเป็นลายลักษณ์อักษร และ/หรือ ชดใช้ค่าเสียหายให้กับสมาคม (ถ้ามี)
ครั้งต่อไป จะถูกปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 60,000 บาท และ/หรือ ชดใช้ค่าเสียหายให้กับสมาคม (ถ้ามี)

5. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการ ไทยลีก 3 วันที่ 4 พฤษภาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร ลพบุรี ซิตี้ พบ สโมสร แม่โจ้ ยูไนเต็ด

- เหตุการณ์
1) ในนาทีที่ 82 ได้มีกองเชียร์สโมสรลพบุรี ซิตี้ สังเกตได้จากการใส่เสื้อสโมสรลพบุรี ซิตี้ ได้ใช้โทรโข่งด่าผู้ตัดสินด้วยคำหยาบคาย สาเหตุเนื่องจากไม่พอใจการตัดสินของผู้ตัดสินในสนามในหลาย ๆ จังหวะ ต่อหน้าผู้ชมที่นั่งชมอยู่ใกล้ ๆ ผู้ประเมินผู้ตัดสินและผู้ควบคุมการแข่งขันได้ยินชัดเจน  

2) ได้รับรายงานจากผู้ตัดสิน หลังจากจบการแข่งขันได้มี นายธารา วัฒนวิเชียร เจ้าหน้าที่ทีมสโมสรลพบุรี ซิตี้ (มีรายชื่อลงทำหน้าที่) เดินเข้ามาตบมือในลักษณะไม่พอใจการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน แล้วพูดคำยั่วยุผู้ตัดสิน โดยผู้ตัดสินทั้ง 4 คน ได้ยิน 

3) หลังจากนั้นได้มีกลุ่มกองเชียร์สโมสรลพบุรี ซิตี้ ได้ขว้างปาน้ำแข็งบดจำนวนหนึ่ง และขวดน้ำจำนวน 1 ขวด ลงมาบริเวณราวบันไดตรงทางเข้าห้องพักผู้ตัดสินแต่ไม่โดนใคร ผู้ตัดสินเห็นว่าไม่มีความปลอดภัย จึงพาทีมงานเข้าห้องพักผู้ตัดสิน โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามเข้ามาส่งที่หน้าห้องพัก
    
- ผลพิจารณาโทษ
1) ลงโทษกองเชียร์สโมสรลพบุรี ซิตี้ ด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคายผ่านเครื่องโทรโข่ง มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.1 วรรคสาม ปรับเงิน 30,000 บาท และห้ามนำอุปกรณ์ดังกล่าวเข้าสถานที่จัดการแข่งขัน 2 นัด แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 7,500 บาท

2) ลงโทษนายธารา วัฒนวิเชียร เจ้าหน้าที่ทีมสโมสรลพบุรี ซิตี้ แสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าสาธารณชน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 2.5 ถูกพักการทำหน้าที่ 2 นัด และปรับเงิน 10,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 2,500 บาท 

3) ลงโทษกองเชียร์สโมสรลพบุรี ซิตี้ ขว้างปาวัสดุใด ๆ ใส่เจ้าหน้าที่การแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.4 ปรับเงิน 40,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 10,000 บาท

4) ลงโทษสโมสรลพบุรี ซิตี้ บกพร่องด้านการรักษาความปลอดภัย มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.18 (1) ปรับเงิน 30,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 7,500 บาท

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 2.5 แสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าสาธารณชน เช่น เข้าไปประท้วงการตัดสินของผู้ตัดสิน ผู้ช่วยผู้ตัดสิน แสดงกิริยาก้าวร้าว ข่มขู่เจ้าหน้าที่การแข่งขัน หรือกระทำการยั่วยุ อันอาจเป็นเหตุนำไปสู่ความไม่สงบเรียบร้อยในสถานที่จัดการแข่งขัน การแสดงสัญลักษณ์ต่าง ๆ หรือใช้ภาษากายที่สังคมทั่วไปเห็นว่าไม่เหมาะสมต่อบุคคลใด หรือปลุกเร้านักกีฬาฟุตบอลอันอาจนำไปสู่เหตุการณ์ที่รุนแรง ทั้งก่อน ระหว่าง หรือหลังการแข่งขัน ถูกพักการทำหน้าที่ 2 นัด และปรับเงิน 10,000 บาท ถึง 20,000 บาท

ข้อ 4.1 ด่าบุคคลใด ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย หรือเยาะเย้ย ดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือแสดงกิริยาก้าวร้าว ข่มขู่ เช่น การเหยียดผิวหรือเชื้อชาติบุคคลใดด้วยพฤติกรรมที่ชัดแจ้ง ทั้งภาษากาย จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 30,000 บาท 

หากการกระทำผิดตามวรรคแรก กระทำโดยบุคคลหลายคนโดยพร้อมเพรียงกัน จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 40,000 บาท  

หากเป็นการกระทำโดยผ่านเครื่องโทรโข่ง หรือเครื่องขยายเสียงประกอบการเชียร์ หรือถ่ายทอดสดผ่านทางสื่อออนไลน์ ปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 50,000 บาท และห้ามนำอุปกรณ์ดังกล่าวเข้าสถานที่จัดการแข่งขัน 1 ถึง 4 นัด

ข้อ 4.4 กองเชียร์ทีมใด หรือกลุ่มบุคคลใด หรือบุคคลใด ขว้างปาหรือกระทำด้วยประการใด ให้วัสดุหรือสิ่งของอื่นใด เข้าไปในสนามก็ดี หรือกระทำต่อนักกีฬาฟุตบอล หรือเจ้าหน้าที่ทีม หรือกองเชียร์ทีมคู่แข่งขัน หรือเจ้าหน้าที่การแข่งขันก็ดี องค์กรสมาชิกต้นสังกัดของกองเชียร์ที่เป็นผู้กระทำ และ/หรือ องค์กรสมาชิกที่เป็นทีมเหย้าที่ปล่อยให้มีการกระทำดังกล่าวต้องรับโทษ จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 60,000 บาท

ข้อ 5.3.18 ความบกพร่องด้านการรักษาความปลอดภัยในวันแข่งขัน
(1) บกพร่องในการตรวจเช็คหรือควบคุมไม่ให้กองเชียร์หรือบุคคลใด นำขวดน้ำ พลุ ประทัดดอกไม้ไฟ หรือวัสดุที่สามารถนำไปใช้ในการทำร้ายกันได้ เข้าไปในสถานที่จัดการแข่งขัน หรืออัฒจันทร์ จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 50,000 บาท

6. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการ ไทยแลนด์ เซมิโปร ลีก (TS) วันที่ 3 พฤษภาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร ลพบุรี พีที ยูไนเต็ด พบ สโมสร ขุนศึกสระบุรี 

- เหตุการณ์
1) นาทีที่ 19 ขณะบอลอยู่ในการเล่น ได้มีสุนัขจำนวน 1 ตัว วิ่งมาจากฝั่งผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 เข้ามาในสนาม ผู้ตัดสินได้สั่งหยุดการเล่นเพื่อไล่สุนัขออกจากสนาม ทำให้เกมการแข่งขันหยุดไป 1 นาที จากนั้นผู้ตัดสินปล่อยบอลให้ผู้รักษาประตูเล่นต่อไป 

2) หลังจากผู้ตัดสินเป่าจบเกมการแข่งขัน ขณะเดินออกจากสนามกลับเข้าห้องพักผู้ตัดสิน ได้มีกองเชียร์สโมสร ขุนศึกสระบุรี จำนวน 3 คน ใส่เสื้อเชียร์ของสโมสร ยืนอยู่บนอัฒจันทร์ บริเวณช่องทางเดิน ตะโกนด่าผู้ตัดสินด้วยคำหยาบคาย โดยพร้อมเพรียงกัน ทีมงานผู้ตัดสินทุกคนได้ยินชัดเจน เนื่องจากไม่พอใจการตัดสินของผู้ตัดสิน
    
- ผลพิจารณาโทษ
1) ลงโทษสโมสร ลพบุรี พีที ยูไนเต็ด ปล่อยปละละเลยทำให้มีสุนัขเข้ามาในสนามแข่งขัน อันเป็นการรบกวนการแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.1.6 ปรับเงิน 10,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยแลนด์ เซมิโปร ลีก จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 2,500 บาท 

2) ลงโทษกองเชียร์สโมสร ขุนศึกสระบุรี ด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย โดยพร้อมเพรียงกัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.1 วรรคสอง ปรับเงิน 20,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยแลนด์ เซมิโปร ลีก จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 5,000 บาท 

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 4.1 ด่าบุคคลใด ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย หรือเยาะเย้ย ดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือแสดงกิริยาก้าวร้าว ข่มขู่ เช่น การเหยียดผิวหรือเชื้อชาติบุคคลใดด้วยพฤติกรรมที่ชัดแจ้ง ทั้งภาษากาย จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 30,000 บาท 

หากการกระทำผิดตามวรรคแรก กระทำโดยบุคคลหลายคนโดยพร้อมเพรียงกัน จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 40,000 บาท  
หากเป็นการกระทำโดยผ่านเครื่องโทรโข่ง หรือเครื่องขยายเสียงประกอบการเชียร์ หรือถ่ายทอดสดผ่านทางสื่อออนไลน์ ปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 50,000 บาท และห้ามนำอุปกรณ์ดังกล่าวเข้าสถานที่จัดการแข่งขัน 1 ถึง 4 นัด

ข้อ 5.1.6 ปล่อยปละละเลยให้สัตว์เลี้ยงหรือสัตว์อื่นใด เข้าไปในสนามแข่งขัน หรือกระทำด้วยประการใด ๆ หรือปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการแข่งขัน จนมีผลกระทบต่อการแข่งขัน จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 30,000 บาท

7. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการ ไทยแลนด์ เซมิโปร ลีก (TS) วันที่ 3 พฤษภาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร กาฬสินธุ์ ยูไนเต็ด พบ สโมสร วิทยาลัยนครราชสีมา เอฟซี 

- เหตุการณ์
1) ก่อนการแข่งขัน 1 ชั่วโมง 30 นาที ผู้ควบคุมการแข่งขันได้สอบถามนายสมชาติ เหล่าพงศ์พิชญ์ เจ้าหน้าที่ทีมสโมสร กาฬสินธุ์ ยูไนเต็ด เกี่ยวกับรถพยาบาล ได้รับคำตอบว่า วันนี้รถพยาบาลมีแค่ 1 คัน เนื่องจากอีก 1 คัน ติดภารกิจในพื้นที่ จึงไม่สามารถมาร่วมการปฏิบัติงานในแมทช์นี้ได้ครบ 2 คัน 

2) พิธีเดินลงสู่สนามแข่งขัน ปรากฏว่า เครื่องเสียงที่สนามไม่พร้อม จึงไม่มีเพลงนำเดินลงสนาม และไม่มีเพลงสรรเสริญพระบารมี หรือการแจ้งประกาศใด ๆ ทั้งสิ้น จนสิ้นสุดการแข่งขัน

- ผลพิจารณาโทษ
1) ลงโทษสโมสร กาฬสินธุ์ ยูไนเต็ด ไม่จัดรถพยาบาล ตามจำนวนที่กำหนดไว้ในระเบียบข้อบังคับ มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.12 วรรคสอง ปรับเงิน 40,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยแลนด์ เซมิโปร ลีก จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 10,000 บาท  

2) ลงโทษสโมสร กาฬสินธุ์ ยูไนเต็ด บกพร่องด้านมาตรฐานของสถานที่จัดการแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.2 ปรับเงิน 10,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยแลนด์ เซมิโปร ลีก จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 2,500 บาท 

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 5.3.12 ต้องจัดรถพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ พร้อมกับอุปกรณ์ช่วยชีวิต เพื่อรองรับการเจ็บป่วยฉุกเฉินของนักกีฬาฟุตบอลหรือผู้ชม จำนวน 2 คัน หรือตามจำนวนที่กำหนดไว้ในระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขันรายการนั้น ก่อนเริ่มเวลาการแข่งขันไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที มิฉะนั้นจะถูกปรับ

ครั้งแรก 20,000 บาท 
ครั้งต่อไปครั้งละ 30,000 บาท

กรณีที่รถพยาบาลมาไม่ทันตามกำหนดระยะเวลาข้างต้น และได้ล่วงเลยระยะเวลาเริ่มการแข่งขันไป ให้เป็นดุลพินิจของผู้ควบคุมการแข่งขันที่จะเลื่อนระยะเวลาเริ่มต้นการแข่งขันออกไปได้ครั้งละ 30 นาที แต่ไม่เกิน 2 ครั้ง ต้องถูกปรับเงิน 40,000 บาท หากมีการกระทำความผิดซ้ำอีก ในการแข่งขันนัดอื่นให้เพิ่มโทษปรับเงินเป็นสองเท่า

กรณีที่ล่วงเลยระยะเวลาตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ไม่อนุญาตให้จัดการแข่งขันในนัดนั้น องค์กรสมาชิกทีมเหย้า ต้องถูกปรับเป็นแพ้ตามระเบียบการปรับแพ้ และถูกปรับเงิน 50,000 บาท 

ทั้งนี้ นอกจากจะต้องรับโทษตามวรรคดังกล่าวข้างต้นแล้ว องค์กรสมาชิกจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นด้วย

ข้อ 5.2 สถานที่ทำงาน และส่วนอำนวยความสะดวก ในสถานที่จัดการแข่งขัน สำหรับใช้เพื่อประโยชน์ในการแข่งขันต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขัน ในแต่ละรายการแข่งขัน หากผิดระเบียบให้ปรับเงิน ดังนี้

ครั้งแรกปรับ 10,000 บาท 
ครั้งต่อไปปรับครั้งละ 20,000 บาท